DPU สร้างประวัติศาสตร์ คว้า 3 แชมป์เชียร์ระดับโลก

DPU สร้างประวัติศาสตร์ คว้า 3 แชมป์เชียร์ระดับโลก

วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.39 น.
Tag :

DPU สร้างประวัติศาสตร์ คว้า 3 แชมป์เชียร์ระดับโลก เบื้องหลังความสำเร็จคือปรัชญา 'สร้างคน' สัยทัศน์ที่มองไกลกว่าชัยชนะ

ชมรมเชียร์ลีดเดอร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) คว้า 3 รางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันรายการใหญ่ระดับประเทศและนานาชาติ THAILAND CHAMPIONSHIPS 2025 (ครั้งที่ 29) และ INTERNATIONAL CHEER CHALLENGE 2025 (ครั้งที่ 6) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 2568 ณ MCC Hall เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ที่ให้การสนับสนุนชมรมอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายรณกร พิณธุรักษ์ ศิษย์เก่า DPU เป็นโค้ชผู้นำทีม


ความสำเร็จอันงดงามนี้ประกอบด้วยการคว้า 3 เหรียญทองจากเวที THAILAND CHAMPIONSHIPS 2025 (ครั้งที่ 29) ในประเภท Team Cheer Coed Premier Level 6 และประเภท Senior Team Pom นอกจากนี้ยังสร้างชื่อเสียงในระดับสากลด้วยการคว้าแชมป์จากรายการ INTERNATIONAL CHEER CHALLENGE 2025 (ครั้งที่ 6) ในประเภท Senior Team Pom ซึ่งจัดโดยสมาคมกีฬาเชียร์แห่งประเทศไทย (CAT) ซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬาเชียร์นานาชาติ (ICU) และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)

นายรณกร พิณธุรักษ์ หรือ “พี่แทน” โค้ชผู้ฝึกสอนของชมรมเชียร์ลีดเดอร์ DPU เปิดเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จว่า ทีมได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการฝึกซ้อมจากการควบคุม มาเป็นการ "ชี้ทาง" โดยเน้นให้นักกีฬาเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและเผชิญปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีการสร้างความรับผิดชอบและทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเอง และยังช่วยให้นักกีฬาได้ปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวได้อย่างเต็มที่ สอดคล้องกับศาสตร์ "Potentialigence" ของ DPU ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพเพื่อเปลี่ยนอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัด

"ถ้าเขาไม่ล้มเลย เขาจะไม่รู้ว่าเขาเจ็บยังไง” โค้ชแทนกล่าว "เราก็ปล่อยให้เขาได้เล่น และพยายามดูว่าเขาเป็นยังไง แล้วจับหรือแนะนำเขาให้ถูกทาง เพราะเด็กบางคนไม่รู้นะว่าตัวเองเก่งอะไร แต่เราเห็น อย่างน้อยๆ เราก็เป็นติวเตอร์ให้น้องๆ เพื่อแนะนำว่าควรพัฒนาต่อด้านไหน เสริมจากที่มหาวิทยาลัยได้สอนในห้องเรียนแล้ว  กิจกรรมของเราจะช่วยเสริมต่อให้ว่าคุณเหมาะหรือคุณควรทำอะไร"

การเรียนรู้จากความผิดพลาดภายใต้การดูแลของโค้ชเช่นนี้ ทำให้นักกีฬาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมีความสามารถในการปรับตัวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดี ความอิสระในการฝึกซ้อมยังช่วยให้แต่ละคนค้นพบทักษะเฉพาะตัว ก่อนจะถูกหลอมรวมเป็นพลังของทีม ผ่านหัวใจสำคัญของกีฬาเชียร์ลีดดิ้งที่ต้องอาศัย "การไว้ใจกัน" อย่างสูงสุด เพราะทุกการเคลื่อนไหวหมายถึงความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีม

“กีฬาเชียร์เนี่ย ถ้าฐานโยนแล้วยอดไม่ไว้ใจฐาน หรือฐานไม่ไว้ใจยอด มันอาจเกิดการบาดเจ็บได้ แต่ถ้าต่างคนต่างไว้ใจกัน การทำงานร่วมกันมันก็ทำให้โชว์สมบูรณ์ได้ มันเกิดการเชื่อใจควบคู่กับกล้ามเนื้อ บางทีร่างกายพร้อม แต่ถ้าความคิดหรือการอยู่ร่วมกันไม่พร้อม ก็จะประสบความสำเร็จได้ยาก”

ผลลัพธ์หรือความสำเร็จที่ได้จึงไม่ใช่แค่ถ้วยรางวัล หากแต่คือบัณฑิตที่มีความพร้อมสำหรับโลกแห่งความจริง โดยนายรณกร ยังสังเกตเห็นอีกว่า นักศึกษาที่ผ่านชมรมเชียร์ลีดเดอร์ DPU มักมีความแข็งแกร่งด้านจิตใจ สามารถรับมือกับแรงกดดันในสังคมการทำงาน และทำให้พวกเขาเติบโตในสายอาชีพได้อย่างรวดเร็ว

“เด็กที่ผ่านการฝึกซ้อมจากชมรมเชียร์ หลายๆคนไปได้ดี ได้ทำงานที่ดี เพราะพวกเขาจะไม่หวั่นไหวง่ายๆ อยู่กับงานได้นาน อดทน  นอกจากทักษะด้านร่างกายและการเต้นเป็นพื้นฐาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการพัฒนาความคิดและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น”

DPU สร้างประวัติศาสตร์ คว้า 3 แชมป์เชียร์ระดับโลก เบื้องหลังความสำเร็จคือปรัชญา 'สร้างคน' สัยทัศน์ที่มองไกลกว่าชัยชนะชัยชนะในประเภท Senior Team Pom ปีนี้จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างนักศึกษาปี 1 และพี่ปี 3-4 รวมถึงศิษย์เก่าที่กลับมาช่วยทีม สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและความเป็นพี่น้องที่พร้อมช่วยเหลือกัน ซึ่งโค้ชแทนกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุด”

นอกจากนี้ โค้ชแทนยังเล่าย้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยที่เป็นจุดเริ่มต้นและผู้มอบโอกาสสำคัญเสมอมา ตั้งแต่การให้โอกาส "กลุ่มเชียร์" เล็กๆ ในปี พ.ศ. 2543 ได้แสดงความสามารถในงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัย จนกลายเป็นชมรมและเป็นที่รู้จักและได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยนี้เอง ที่เป็นแรงผลักดันให้โค้ชแทนต้องการ "ส่งต่อโอกาส" เหล่านั้นให้กับนักศึกษารุ่นน้องต่อไป

"บางคนจบแล้วก็แล้วกัน แต่ที่เราทำมา 25 ปีนี้ เพราะผู้ใหญ่มองเห็น ให้เราทำและช่วยขัดเกลา ให้เราเป็นตัวเราในเวอร์ชันที่ดีที่สุด อย่างท่านอธิการบดี ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ ท่านเองก็เคยสอนเราโดยตรงมาก่อน รวมถึงอาจารย์ที่ทำหน้าที่ดูแลนักศึกษา ผศ. ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา  และ พี่ ๆ สำนักกิจการนักศึกษา  อาจารย์ที่สอนเราทุกคนทุกท่าน   ทุกคนให้โอกาสเราหมด เราก็เลยอยากที่จะส่งต่อโอกาสให้กับน้อง เป็นการต่อยอดและซัพพอร์ตกันไปเรื่อยๆ"

สำหรับก้าวต่อไปในระยะในอนาคต โค้ชแทนตั้งเป้าที่จะขยายขอบเขตของชมรมให้เป็นมากกว่าชมรมเชียร์ เพราะต้องการสร้างให้เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมการแสดงที่หลากหลาย เช่น การเต้นในรูปแบบใหม่ๆ, คัลเลอร์การ์ด (Color Guard) และการจัดงานอีเวนต์  เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ส่วนเป้าหมายระยะสั้นที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการ "สร้างเด็กรุ่นใหม่" ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ที่เรียนจบไป เพื่อให้ชมรมเติบโตต่อไปได้ด้วยตัวเอง

“จริงๆ มหาวิทยาลัยสนับสนุนอยู่แล้ว ทั้งทุนการศึกษาและงานโชว์กิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยให้นักศึกษามีรายได้ระหว่างเรียน แต่ยังมีพื้นที่ให้ต่อได้ ไม่ได้จำกัดแค่การเชียร์ แต่รวมทั้งการเต้น การจัดอีเวนต์ และคัลเลอร์การ์ดโชว์ไว้ที่นี่ โดยแยกออกเป็นระบบคล้ายหลักสูตรในคณะ เพื่อให้น้องๆ ได้แสดงออกและเรียนรู้การทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ”

“เพราะนักศึกษาใหม่ส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่าชมรมเชียร์ลีดเดอร์มีแต่การต่อตัวที่น่ากลัว ทำให้อาจไม่กล้าเปิดใจเข้ามาลอง ซึ่งความจริงแล้วชมรมมีกิจกรรมการเต้นในหลากหลายรูปแบบที่รอให้พวกเขามาค้นพบ ก็อยากให้ลองก่อน ถ้าเขาเลือกจุดถูก เปิดใจ เขาจะได้ประสบการณ์ ได้รางวัล และความภาคภูมิใจของครอบครัว”

สำหรับนักศึกษาที่สนใจอยากเปิดใจเรียนรู้และเป็นส่วนหนึ่งของทีม สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมของชมรมฯ ได้ทาง Instagram: DPU_cheerleading

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top