บทความพิเศษ : ‘น้ำไม่ถึงนา เรียกหาเรา’

บทความพิเศษ : ‘น้ำไม่ถึงนา เรียกหาเรา’

วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.

สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ดูจะคลี่คลายลงแล้ว พอจะเชื่อมั่นได้ว่า จะไม่มีการเกิดมหาอุทกภัยเหมือนปี 2554 เพราะส่วนราชการต่างๆ ได้จับมือดูแลแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี จากนี้ไปก็ต้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทานมีภารกิจในการรวบรวมที่ดินหลายแปลงในบริเวณเดียวกันมาวางผังจัดรูปที่ดินใหม่ ปรับระดับพื้นที่ดิน บำรุงดิน ช่วยวางแผนการผลิตและการจัดจำหน่ายผลิตผลการเกษตร และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมรวมไปถึงการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรกรรม ที่เหมาะสมอย่างทั่วถึง ตลอดจนการจัดสร้างถนนหรือทางลำเลียงในไร่นา


โดยได้กำหนดเป้าหมายที่จะจัดรูปที่ดินพร้อมพัฒนาระบบชลประทานในไร่นาพื้นที่ที่มีศักยภาพภายใน 20 ปี เพิ่มอีก 8.47 ล้านไร่ และรักษาพื้นที่เกษตรกรรมที่มีการพัฒนาระบบชลประทานในไร่นาให้มีความยั่งยืน อีก 5.99 ล้านไร่

แต่การจะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เกษตรกรจำนวนมากไม่เข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับและไม่ให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบกระจายน้ำ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานที่จะลงพื้นที่เข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกรมีจำนวนจำกัด

อย่างไรก็ตาม ต้องชื่นชม สำนักงานจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 18 กรมชลประทาน ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว และนครนายก รวมกว่า 2.4 ล้านไร่ สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม

โดยใช้กลยุทธ์ “น้ำไม่ถึงนา เรียกหาเรา”

ศรายุทธ งูทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดรูปที่ดินฯที่ 18 บอกว่า สำนักงานจัดรูปที่ดินฯ ที่ 18 มีเจ้าหน้าที่เพียง 11 อัตรา เท่านั้น จึงไม่สามารถเข้าไปพบเกษตรกรที่บ้านได้ทุกราย โดยเฉพาะการเข้าถึงเกษตรกรที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล และที่สำคัญเกษตรกรส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงวัยอีกด้วย ทำให้ช่องว่างระหว่างวัยเป็นอุปสรรคในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้การจัดรูปที่ดินโดยการพัฒนาระบบกระจายน้ำชลประทานในไร่นาที่รับผิดชอบไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

“เราจึงได้นำกลยุทธ์ น้ำไม่ถึงนาเรียกหาเรา มาใช้ เมื่อปี 2567 โดยเปิดช่องทางสื่อสารหลากรูปแบบมาทั้งแก้ปัญหา ทั้งแบบ Online ได้แก่ Facebook Fanpage Line Open-Chat และ Line Official เป็นช่องทางที่เข้าถึงเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้นำชุมชนที่มีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วในการสื่อสาร สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างทันท่วงที

อีกรูปแบบหนึ่งคือ แบบ Onsite ได้แก่ การจัดประชุมกับเกษตรกรในรูปแบบ Face to Face จัดทำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ที่มีรายละเอียดการดำเนินงาน รายนามผู้รับผิดชอบพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อได้รับการติดต่อจากเกษตรและผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความต้องการสภาพปัญหาและชี้แจงแนวทางการดำเนินการของสำนักงานภายใน 48 ชั่วโมง และการใช้ Young Smart Farmer (YSF) เป็นตัวกลางในการประสานงานกับเกษตรกรผู้สูงอายุที่ไม่คุ้นเคยกับการติดต่อแบบ Online กลัวการหลอกลวงของมิจฉาชีพ การเห็นหน้าตาจะเป็นการสร้างความคุ้นเคยได้มากกว่า” นายศรายุทธ กล่าว

ผลจากการใช้ช่องทางการสื่อสารทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเวลา 1 ปี ส่งผลให้เกษตรกรเกิดการตระหนักรู้ ได้รับความเข้าใจที่ถูกต้องถึงภารกิจในการพัฒนาระบบชลประทานในไร่นาของสำนักงานจัดรูปที่ดินฯ ที่ 18 มากขึ้น เกิดความร่วมมือในการที่กระจายน้ำเข้าสู่แปลงนาของตนได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ชลประทานรวมทั้งหมดกว่า 180,000 ไร่ และยังมีพื้นที่ที่เกษตรกรต้องการขยายเพิ่มอีกกว่า 11,000 ไร่

จากทำสำเร็จดังกล่าว สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง จึงได้นำกลยุทธ์ น้ำไม่ถึงนา เรียกหาเราไปต่อยอด ขยายผลสู่สำนักงานจัดรูปที่ดินฯ อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้บรรลุเป้าหมายตามวางไว้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top