คำสั่งเสียสุดท้าย พลทหารวัย18 พลีชีพเนิน350 เปิดใจแม่ช็อกเข้ารพ. จากเด็ก กศน.สู่ทหารกล้า

คำสั่งเสียสุดท้าย พลทหารวัย18 พลีชีพเนิน350 เปิดใจแม่ช็อกเข้ารพ. จากเด็ก กศน.สู่ทหารกล้า

วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.32 น.

แม่ช็อกส่งโรงพยาบาล หลังรู้ข่าวลูกชายพลีชีพที่เนิน 350 น้องสาวร่ำไห้ วอนขอชีวิตพี่ชายกลับคืน

17 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านสมรภูมิเนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้ทหารไทยสูญเสียกำลังพลอีก 2 นาย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 68 ได้แก่ จ.ส.อ.เริง คลังประโคน และพลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน.3)


โดยล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับคุณแม่และครอบครัวของ พลทหาร ภานุพัฒน์ ที่โรงพยาบาลวังหิน หลังจากคุณแม่ทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตในสมรภูมิเนิน 350 ทำให้เกิดอาการช็อก ต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

นางพิชญ์สินี เสาร์สา อายุ 41 ปี มารดาของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดเผยว่า ตนมีบุตรทั้งหมด 3 คน โดยพลทหารภานุพัฒน์เป็นบุตรชายคนโต สมัครเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์เมื่ออายุ 18 ปี ปกติลูกชายจะโทรศัพท์มาหาแม่เกือบทุกวัน แต่ครั้งนี้ขาดการติดต่อไปนานถึง 2 วัน ล่าสุดที่ได้พูดคุยกัน ลูกบอกว่ากำลังขนระเบิดขึ้นแนวหน้า และหลังจากนี้จะมีการรบกันอย่างหนัก พร้อมพูดกับแม่เสมอว่า 'แม่ต้องเผื่อใจไว้ หากลูกเป็นอะไรไป แม่ต้องเข้มแข็ง'

ความฝันของพลทหารภานุพัฒน์ คืออยากเป็นทหารและเรียนต่อ เพื่อให้มียศมีตำแหน่งที่สูงขึ้น และหวังอยากเป็นเสาหลักหาเงินส่งเสียน้องทั้งสองคนให้ได้เรียนหนังสือจนจบสูงๆ โดยขณะเรียนอยู่ชั้น ม.2 ลูกชายเคยถูกเพื่อนแกล้งจนต้องออกจากโรงเรียน และไปเรียนต่อในระบบ กศน. ด้วยความหวังอยากมียศมีตำแหน่ง และอยากเป็นนายสิบ แม่จึงแนะนำให้สมัครเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์

นิสัยของพลทหารภานุพัฒน์เป็นคนดี ชอบดูแลครอบครัว ดูแลน้องๆ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือปัญหากับใคร ก่อนที่พลทหารภานุพัฒน์จะเสียชีวิตจากเหตุระเบิดไม่ถึง 1 เดือน ลูกชายเคยฝันและมาเล่าให้แม่ฟังว่า ฝันเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านมาหาและให้กราบเท้า พร้อมบอกให้กลับบ้าน แต่ในความฝัน ลูกชายตอบกลับไปว่า 'จะกลับได้อย่างไร ในเมื่อยังทำหน้าที่รับใช้ชาติอยู่'

พลทหารภานุพัฒน์เคยบอกแม่ว่า จะขอรบเพื่อทวงคืนปราสาทตาควายให้คนไทย ตนเองรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกฝันเป็นลางร้าย แต่ไม่กล้าบอกลูก ได้เพียงบอกไปว่า หากอยากกลับบ้านให้บอกแม่ได้เสมอ แต่ลูกชายตอบกลับมาว่า ไม่ได้หรอกแม่ ผมรักชาติไปแล้ว จะขอสู้และรบเพื่อชาติ หากต้องตายก็ขอตายอย่างภาคภูมิใจ จนถึงวันนี้ ลูกชายได้เสียสละชีวิตเพื่อชาติจริงๆ ตนรู้สึกภูมิใจที่ลูกได้ทำตามคำพูดที่เคยบอกไว้กับแม่ อีกทั้งลูกชายยังสั่งเสียว่า แม่ต้องกินข้าว กินยา และพักผ่อนให้มาก จะได้มีแรงทำบุญให้ลูก

ด้าน น.ส.สุชาวดี อินทวงศ์ อายุ 15 ปี น้องสาวของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดที่พี่ชายกลับบ้าน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการรบครั้งแรก พี่ชายได้ชวนครอบครัวไปเที่ยว และพูดว่า หากเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง แล้วพี่ไปรบและเกิดเสียชีวิตจากระเบิด ก็จะไม่ได้กลับมาพบครอบครัวอีก จะไม่ได้มานั่งคุยกันอีก

น้องสาวกล่าวทั้งน้ำตาว่า รักพี่ชายคนนี้มาก เพราะพี่สมัครเป็นทหาร ทำงานหนักเพื่อส่งเสียให้น้องๆได้เรียนหนังสือสูงๆ รู้สึกภูมิใจในพี่ชายคนนี้มาก และหลังจากสูญเสียพี่ชายไป หากเป็นไปได้ในตอนนี้ อยากได้พี่ชายกลับคืนมาอีกครั้ง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top