12 ม.ค.58 เมื่อเวลา 11.50 น. ร.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ บริษัท เอ พี ซี บี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เลขที่ 139/2 ม.2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานงานรถดับเพลิงจากเทศบาลและอบต.ใกล้เคียงเข้าควบเพลิง และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบเปลวเพลิงและกลุ่มควันพวยพรุ่งออกมาจากชั้น 3 ของตัวอาคารขนาดใหญ่และลุกลามขึ้นไปติดบนชั้น 4 อย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงจากเทศบาลและ อบต. ต่างๆ ระดมเข้ามาสกัดเพลิง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจาก ต้นเพลิงอยู่บนชั้น 3 ที่ก่อสร้างสูงเป็นพิเศษ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะฝ่ากลุ่มควันไฟเข้าไปดับได้ ต้องใช้รถกระเช้า นำสายน้ำดับเพลิงขึ้นไปฉีดสกัดอย่างยากลำบาก เนื่องจากการก่อสร้างออกแบบตัวอาคารมีขนาดใหญ่ มีความสูง และอยู่ชิดติดกับตัวอาคารโรงงานหลังเดิม ทำให้รถกระเช้าเข้าดับเพลิงไม่ได้
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าอำนวยการดับเพลิง สั่งเจ้าหน้าแต่งชุดผจญเพลิงพร้อมอุปกรณ์ท่อลมหายใจ นำสายฉีดน้ำเข้าสกัดภายในตัวอาคาร ต้องใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ตำรวจสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของชาวไต้หวันร่วมทุนกับชาวจีน รับจ้างผลิตแผงพิมพ์ลายวงจรไฟฟ้า หรือ แผ่นปริ้น ส่งออกขายไปทั่วโลก ทั้งนี้ จยย.รับจ้าง ซึ่งอยู่ใกล้กับบริษัท เห็นเปลวเพลิงและกลุ่มควันไฟพวยพรุงออกมาจากชั้น 3 ของตัวอาคารที่ใช้เก็บสารเคมีในขบวนการผลิตแผงลายวงจรไฟฟ้า หรือ แผ่นปริ้น กลุ่มควันพวยพุ่งอย่างรวดเร็วและรุนแรง เปลวเพลิงยังได้ลุกลามขึ้นไปติดชั้น 4 ที่เป็นชั้นสำหรับผลิตงาน กลุ่มควันไฟดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า และเห็นคนงานวิ่งหนีไฟกันออกมาจากตัวอาคารเป็นจำนวนมาก จากไฟไหม้กลุ่มควันไฟสีดำพัดไปตามกระแสลมปกคลุมหมู่บ้านชุมชนคลองพุดทรา ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน มีประชาชนอาศัยกว่า 3,000 คน เป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนวัดราษฏรศรัทธาธรรมและศูนย์เด็กเล็ก มีเด็กเล็กและนักเรียนรวมกว่า 200 คน ครูและชาวบ้าน ทนสูดดมพิษควันไฟไม่ไหวแลเกรงจะเกิดอันตราย ต้องอพยพ ไปอยู่ที่ สถานีรถไฟบ้านคลองพุดทรา ที่อยู่เหนือลมเพื่อความปลอดภัยและสั่งปิดโรงเรียนทันที
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุมีกระแสลมแรงทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก และจากการดูผังของโรงงานพบว่าตัวอาคารของโรงงานมีการก่อสร้างแต่ละชั้นจะสูงกว่าอาคารทั่วไปที่เรียกว่าสูงพิเศษและการออกแบบตัวอาคารมีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ทำให้ตัวอาคารใกล้ชิดกันไม่มีช่องทางรถดับเพลิงเข้าไปได้ และที่สำคัญตัวอาคารของแต่ละชั้นที่มีความสูง ต้องใช้รถกระเช้าขึ้นไปฉีดน้ำทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่จากประสบการณ์ที่ได้ทำการซ้อมแผนรับมือเป็นประจำทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมเพลิงได้สั่งการให้พนักงานดับเพลิงใส่ชุดผจญเพลิงนำสายฉีดน้ำเข้าสกัดจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาต่อมา โดยใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมง ส่วนค่าเสียหายต้องให้ทางบริษัทประเมินแต่ประมาณความเสียหายมหาศาลอย่างแน่นอน และจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างไร
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพนักงานที่หนีตายขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้เปิดเผยว่า ก่อนที่เพลิงจะไหม้ได้ยินเสียงพนักงานตะโกนมาจากชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับเก็บสารเคมีว่ามีท่อสารเคมีรั่วไหลและก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากนั้นได้มีกลุ่มควันไฟพวยพรุ่งออกมาลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากชั้น 3 เป็นที่เก็บสารเคมีกว่าดับดับเพลิงจะมาถึงเปลวเพลิงถูกกระแสลมพัดอย่างรุนแรงไปติดชั้น 4 อย่างรวดเร็วและข้อมูลจากเว๊ปไซด์ของบริษัท เอ พี ซี บี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.56 ได้เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ดาดฟ้า 1 ครั้ง และ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.57 ก็มีเหตุไฟไหม้เป็นครั้งที่ 2 ไม่ได้ระบุไว้ และล่าสุด ในวันนี้ ถูกไฟไหม้อีกเป็นครั้งที่ 3
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี