พบอีก18หลุมซุกค่ายนรก

ฝังโรฮิงญา!

รอประสาน‘มาเลย’สอบ

‘พังงา’เจอฆ่าตายทั้งกลม

บิ๊กตู่สั่งงัดยาแรงล้างบาง

วันที่ 5 พฤษภาคม พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สงขลา นำกำลังเข้าสนธิกับทหาร ตำรวจตระเวนชายแดนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เดินทางบุกไปยังพื้นที่เทือกเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบหลุมศพ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหลุมศพชาวโรฮิงญาเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งมีการตรวจพบเพิ่มเติมห่างจากจุดเดิมที่มีการพบหลุมฝังศพประมาณ 30 หลุม ออกไปราว 500 เมตร โดยเจ้าหน้าที่พบหลุม 2 หลุม แต่เมื่อขุดพิสูจน์ไม่พบศพถูกฝังแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบว่า เป็นแคมป์ที่เพิ่งสร้างใหม่ มีโรงเรือน 8 หลัง ทั้งโรงนอน โรงครัว และห้องน้ำ ซึ่งคาดว่าจะเป็นค่ายกักกันชาวโรฮิงญาอีกแห่งหนึ่ง และเป็นเครือข่ายเดียวกับแคมป์เก่าที่พบ

แม่-ลูกโรฮิงญาขอให้ช่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น ได้พบชาวโรฮิงญา 2 แม่ลูก เดินลงมาจากเขาในสภาพอิดโรยและเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ พร้อมร้องไห้น้ำตานองหน้า โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ก่อนที่จะทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นทราบเพียงว่า มาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ และก่อนหน้านี้ได้หลบหนีออกจากค่ายไปอยู่ในป่า

ตะลึงเจอหลุมศพอีก18หลุม

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมคล้ายหลุมฝังศพอีก 18 หลุม ในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่เนื่องจากพื้นที่อยู่ใกล้แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ เพราะเกรงจะกระทบด้านความสัมพันธ์ ทั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 จะได้ประชุมเพื่อวางแผนดำเนินการต่อไป

โผล่อีก!หลุมฝังศพที่พังงา

เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผบก.ภ.จว.พังงา นำกำลังเดินทางไปที่เกาะโต๊ะกระ ม.5 บ้านบางนายสังข์ ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเคยเป็นแคมป์ที่พักของชาวโรฮิงญา หลังจากสอบปากคำเด็กชายชาวโรฮิงญา 2 คน ที่หลบหนีเข้าเมืองจนทราบว่า ขณะที่หลบหนีมาพร้อมกับชาวโรฮิงญาคนอื่นๆ และมาพักที่แคมป์พักชั่วคราวบริเวณเกาะนก มีชาวโรฮิงญาถูกนายหน้าชาวไทยใช้ไม้ทุบตีจนเสียชีวิตหลายคน จากนั้น ได้นำศพไปฝังตามเกาะต่างๆ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะนก เกาะเสม็ด

สลด!เจอศพเหยื่อตั้งท้อง

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกาะโต๊ะกระ พบมีหลุมที่มีการขุดคล้ายกับหลุมศพ จำนวน 1 หลุม เจ้าหน้าที่จึงลงมือขุดจนพบศพถูกฝังอยู่ 1 ศพ ลักษณะเป็นโครงกระดูกและชิ้นไขมัน กะโหลกศีรษะแตก คาดว่าเป็นศพของหญิงชาวโรฮิงญาที่เสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ และถูกนำมาฝังตามหลักของศาสนาอิสลาม โดยสังเกตจากวิธีการฝัง จะหันศีรษะไปทางทิศเหนือ และนอนตะแคงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจึงนำศพกลับไปตรวจสอบ แต่เบื้องต้นจากสภาพชิ้นไขมันที่พบ ทำให้คาดว่า ศพดังกล่าวเพิ่งถูกนำมาฝังได้ไม่เกิน 1 ปี

อีกศพถูกทรมานให้จมน้ำตาย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณเกาะนก โดยใช้เวลาในการเดินทางทางเรือประมาณครึ่งชั่วโมง พบศพในสภาพเป็นโครงกระดูก ถูกพันธนาการกับรากไม้โกงกาง สันนิษฐานว่าเป็นการทรมานให้จมน้ำตาย โดยตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบทุกจุด เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้

โฆษกตร.เชื่อมีอีกหลายค่าย

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจเจอค่ายชาวโรฮิงญาอีกหลายค่ายแต่คงไม่มาก ส่วนในทางการสืบสวนจะมีการออกหมายจับเพิ่มอีกแน่นอน ซึ่งตอนนี้ที่ออกหมายจับไปก็เป็นระดับผู้บริหารค่ายทั้งนั้น ต่อไปก็จะสืบสวนเรื่องนายทุน และเรื่องของเครือข่าย การส่งคนส่งเงิน ซึ่งต้องมีการส่งไปพื้นที่อื่น อาจมีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ได้ตัวผู้ต้องหา5จาก8ราย

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไปแล้ว8ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 5 ราย คือ 1.นายอาสัน หรือมูสัน อินทนู สท.ปาดังเบซาร์ 2.นายร่อเอ สนยาแหละ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน3.นายอาหลี ล่าเม๊าะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน4.นายอันวา หรือซอ เนียง อานู สัญชาติพม่า และ 5.นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะโละ ซึ่งได้เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเดียวกันนี้ แต่ยังคงให้การปฏิเสธ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ 4 รายให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญามีการตั้งข้อหาผู้ต้องหาว่าค้ามนุษย์

เชื่อเอาผิดจอมบงการใหญ่ได้

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก3ราย คือ นายประสิทธิ์ เหล็มแหล๊ะ รองนายกเทศบาล ต.ปาดังเบซาร์ นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ อายุ47ปี นายเจริญ ทองแดง อายุ45ปี คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยังคงหลบหนีอยู่ แต่การข่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าหลบหนีอยู่ที่ใด ออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ ตอนนี้พยายามติดต่อกับญาติของผู้ต้องหาให้นำมามอบตัว ส่วนความเกี่ยวข้องกับนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ซึ่งเคยเป็น อดีต ผบก.ภ.จว.สตูล จากหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และจะมีคนอื่นด้วยที่เกี่ยวข้องด้วย และมั่นใจว่าจะมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับหัวหน้าขบวนการใหญ่ ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนดังของ จ.สตูลได้

บัญชีดำ60ขาใหญ่ค้ามนุษย์

แหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง จ.ระนอง เปิดเผยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง จ.ระนอง ได้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่เป็นเครือข่าย ที่เจ้าหน้าที่สืบทราบถึงพฤติกรรมต้องสงสัยแต่ยังไม่สามารถจับกุมหรือดำเนินคดีได้ โดยสืบทราบจากพฤติกรรมต่างๆ อาทิ หลายคนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่มีฐานะดี ร่ำรวย มีรถนับสิบคัน บ้านใหญ่โต จากหลักฐานข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าโรฮิงญา ขณะสามารถจัดทำบัญชีรายชื่อได้รวมทั้งหมด 60 คน

เผยมีตัวเป้ง6ราย

ในจำนวนนี้มีผู้ค้ารายใหญ่จำนวน 6 ราย ที่มีเครือข่ายครอบคลุม กว้างขวาง และเกี่ยวเนื่องไปจนถึงปลายทาง ประกอบด้วย โก ม., โก น.,โก ต.,โก ร.,เจ๊ ข.,เจ๊ น., โดย โก ร. เคยต้องโทษคดีนำพม่าแรงงานพม่าหลบหนีเข้าเมือง 150 คนใส่รถบรรทุกห้องเย็น จนมีแรงงานพม่าตาย 54 ศพเพราะขาดอากาศหายใจ เมื่อหลายปีก่อน หลังจากต่อสู้คดีมาระยะหนึ่งก็หันมาค้าโรฮิงญา

มีหน้ามีตา-กม.เอื้อมไม่ถึง

โดยกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ทั้ง 6 เป็นกลุ่มที่ทำมานานหลายสิบปี จนปัจจุบันเป็นบุคคลมีหน้ามีตาในสังคมแต่ที่กฏหมายไม่สามารถดำเนินการกับคนเหล่านี้ได้เนื่องจากการกระทำความผิดมีการแบ่งช่วงงานหลายช่วงหลายตอน สลับซับซ้อนไม่สามารถสาวถึงได้ แต่จากกฏหมายค้ามนุษย์ฉบับใหม่ที่ให้ ป.ป.ง.เข้าไปยึดทรัพย์ได้นั้นต่อไปอาจจะใช้ช่องทางกฏหมายดังกล่าวเข้าไปดำเนินการเพื่อให้กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีทรัพย์สินเป็นจำนวนมากให้แสดงที่มาของทรัพย์สิน หากแสดงไม่ได้ก็สามารถยึดทรัพย์กลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้

“บิ๊กตู่”สั่งสแกนทุกตารางนิ้ว

วันเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ทุกพื้นที่ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ ทำการตรวจสอบพื้นที่ของตัวเองทุกตารางนิ้ว หากที่ใดปล่อยให้มีสถานกักกัน กุมขังเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ หรือสนับสนุนที่พักพิง จะต้องรับผิดชอบ

ใช้ยาแรงกับมิจฉาชีพทุกรูปแบบ

“โดยเฉพาะหากเกิดเหตุร้ายแรงดังเช่นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จะต้องย้ายออกนอกพื้นที่ทันที เพราะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายแต่กลับละเลย สำหรับผู้เรียกรับหรือได้รับผลประโยชน์จะถูกลงโทษทั้งวินัยและอาญา ซึ่งร่วมถึงการกระทำผิดอื่นๆ ทั้งรุกป่า ยาเสพติด อิทธิพล อาชญากรรมร้ายแรง หากพบการกระทำผิด และมีเหตุเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ต้องถูกสอบสวนและลงโทษสถานหนัก เพราะถือว่าเป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง” พล.ต.สรรเสริญ กล่าวและว่า รัฐบาลจะใช้ยาแรงกับมิจฉาชีพทุกรูปแบบ และเจ้าหน้าที่รัฐต้องให้ความร่วมมือ เพื่อกำจัดสิ่งเลวร้ายให้หมด

ผบ.ทบ.สั่งจัดระเบียบชายแดน

ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำรวยการรักษาความมั่นคงภายใจ (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด ไม่ต้องเกรงใจใคร โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับผู้ทำผิด พร้อมกับเปิดยุทธการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน รวมทั้งให้การคุ้มครองพยาน

ปค.เข้มล้อมคอกทั่วประเทศ

นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งถึงปลัดจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ วางมาตรการเข้มงวดกวดขัน ไม่ให้ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน อส. และ ชรบ. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หากมีการออกหมายจับในคดีอาญา ให้รายงานทางจังหวัด เพื่อให้ออก หรือพักการปฏิบิตหน้าที่ไว้ก่อนทันที

ประสานทหารค้นป่า-เกาะ

สำหรับจังหวัดชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้ประสานกับ กอ.รมน.ภาค 4 และหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อเข้าตรวจค้นพื้นที่ที่อาจเป็นที่พักพิงของกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งในป่าเขา ชายแดน และเกาะแก่งต่างๆ หากพบแหล่งคุมขังในพื้นที่ แล้วผู้รับผิดชอบไม่ทราบหรือไม่รายงานนายอำเภอ จนมีหน่วยงานอื่นเข้าไปช่วยเหลือหรือจับกุม ให้นายอำเภอพิจารณาดำเนินการกับผู้รับผิดชอบได้ทันที

กสม.แฉมีค่ายกักกันอีกเพียบ

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา แต่จะต้องหาต้นตอหรือผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ได้ ที่ผ่านมา กสม. เคยได้รับการร้องเรียนว่ามีขบวนการค้ามนุษย์นำชาวโรฮิงญาเข้ามา โดยมีการส่งภาพถ่ายและข้อมูลเข้ามาด้วย ซึ่งเชื่อว่ามีมากกว่าจุดนั้น โดยเฉพาะตามเกาะแก่งต่างๆ จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งตรวจสอบ

สหรัฐจี้ไทยเร่งสอบสวน

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเจฟฟรีย์ ราธเค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลวอชิงตันและองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับสากลหลายแห่ง เข้าใจเป็นอย่างดีว่า รัฐบาลไทยกำลังเร่งสืบสวนกรณีพบสุสานชาวโรฮิงญาหลายแห่ง และติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี แต่ขอให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปอย่างโปร่งใส รวมถึงมีความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ นายราธเค ยอมรับว่า มีข้อมูลเรื่องเจ้าหน้าที่ของทางการไทยบางคนมีส่วนรู้เห็นกับกระบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลสหรัฐบันทึกข้อมูลเอาไว้นานแล้ว