1 ก.พ. 59 จากกรณีมีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.บุกยิงนายกนก ฐิติโชติสกุล อายุ 65 ปี และนายนัฐวุฒิ ฐิติโชติกุล อายุ 30 ปี เสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ม.ค.59 ที่ผ่านมา ที่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีพยานให้การว่าคืนวันที่ 19 ม.ค.เวลาประมาณ 2 ทุ่มชาวบ้านได้ยิงเสียงปืนแต่ไม่มีใครกล้าออกไป เพราะบริเวณบ้านหลังดังกล่าวชาวบ้านได้ยินเสียงปืนเป็นประจำ จนกระทั่งสายของวันที่ 20 ม.ค.คนรับซื้อของเก่าได้ขับรถเข้ามารับซื้อของเก่า และพบว่ามีคนนอนเสียชีวิตอยู่จำนวน 2 ศพ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นคนรู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากยิงในระยะประชิด เพราะทั้งสองศพถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัว

ล่าสุด ที่สภ.เบตง พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี รอง ผกก.สส.สภ.เบตง พ.อ.สุวัฒน์ เฉลิมเกียรติ ผบ.ฉก.ทพ.33 พ.ต.ต.สุเทพ ชูแก้ว ผบ.ร้อย(สบ2) กก.ตชด.44 ร.ต.ท.โกศล ปิ่นเพชร รอง สว.(ป/)/หน.ชปข.ตชด.445 ร่วมกับฝ่ายสืบสวนสภ.เบตง จับกุมนาย อาร์ม หรือ แอ ดี อายุ 26 ปี ชาวต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังสืบสวนทราบว่าในวันเกิดเหตุมีนายพินิจ หรือ คิว อริยะมนตรี อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัว นาย พินิจ อริยะมนตรี มาสอบสวนทราบจนทราบว่า นาย อาร์ม หรือ แอ เป็นคนก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิง นาย กนก ฐิติโชติสกุล และ นาย ณัฐวุฒิ ฐิติโชติสกุล เสียชีวิต และหลังจากเกิดเหตุ นาย อาร์ม ได้หลบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และ นาย พินิจ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำตัว นาย อาร์ม มาทำการสอบสวนที่ สภ.เบตง

จากการสอบสวน นาย อาร์ม หรือ แอ สารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิง นาย กนก ฯ และ นาย ณัฐวุฒิ ฯ เสียชีวิตจริง จากสาเหตุขัดแย้งกันส่วนตัว และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาอาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน 9 มม.จำนวน1 นัด ที่ฝังซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดอาวุธปืนและของกลางดังกล่าวข้างต้นไว้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ถูกจับ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางมาที่ สภ.เบตง จากนั้นจึงได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินคดีกับผู้ถูกจับตามกฏหมายต่อไป ส่วนฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องจะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป