18 ก.พ.59 เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ผ่านมา พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นผู้แทนกองทัพเรือ พร้อมด้วย นางปัญชริน ใคร่ครวญ ประธานสมาคมภริยาทหารเรือฝ่ายภูมิภาคผู้แทนนายกสมาคมภริยาทหารเรือพร้อมคณะสมาคมภริยาทหารเรือ นางพิกุล โสภา ปลัดอำเภอสัตหีบ เหล่ากาชาดอำเภอสัตหีบ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กำลังพลกองทัพเรือ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และญาติผู้วายชนม์ ได้เดินทางมารอรับศพ พลทหาร สุริยา ช่างบุตร อายุ 22 ปี ที่สละชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินภายใต้ภารกิจการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างสมเกียรติ โดยเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเรือ เดินทางจากสนามบินนราธิวาส มาลงยังสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ระหว่างลำเลียงศพนักรบนาวิกโยธิน มาประกอบพิธีทางศาสนา ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ มีกำลังพลของทัพเรือ และนักเรียนในพื้นที่สัตหีบ ร่วมตั้งแถวรอรับนักรบวีรบุรุษนาวิกโยธินทั้งสองข้างทางเยี่ยงวีรบุรุษ ทำเอาญาติของผู้วายชนม์ปลื้มปิติจนกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ก่อนนำมาประกอบพิธีรดน้ำศพ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 17.00 น. โดยมีผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นผู้แทนกองทัพเรือ นำกำลังพลและผู้ร่วมในพิธีจำนวนมากประกอบพิธีรดน้ำศพ พร้อมมอบเงินเบื้องต้นให้กับทางญาติ โดยผู้แทนนายกสมาคมภริยาทหารเรือ และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน สำหรับแก้ปัญหาในเบื้องต้น

และในเวลา 19.30 น. พลเรือเอก ณ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพด้วยตัวเอง และวันพรุ่งนี้ 19 ก.พ.59 จะทำพิธีเคลื่อนย้ายศพ พลทหารสุริยา ช่างบุตร โดยเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเรือนำไปประกอบพิธีทางศาสนาและพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติยัง จังหวัดสุรินทร์ ภูมิลำเนาเดิมต่อไป 

สำหรับพลทหารสุริยา ช่างบุตร เป็นทหารนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สังกัดหมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 เสียชีวิตในขณะออกลาดตระเวนโดยยรถจักยานยนต์ รวม 3 คัน กำลังพล 6 นาย เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับคณะครู บนถนนในหมู่บ้านตันหยง ม.4 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และถูกคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนักกว่า 15 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.59 ที่ผ่านมา

พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวว่ากองทัพเรือ ต้องขอเชิดชูวีรกรรมของ พลทหาร สุริยา ช่างบุตร อย่างสูงสุดในฐานะวีรบุรุษผู้กล้าหาญที่สละชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน สู้ไม่ถอยไม่กลัวแม้ตัวตาย วีรกรรมนี้ทางกองทัพเรือ จะนำอัฐิของทหารกล้าบรรจุเก็บไว้ยังอนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน เพื่อเชิดชูเหล่าผู้กล้าให้ลูกหลานได้ระลึกในวีรกรรมอันกล้าหาญและเชิดชูแก่วงศ์ตระกูล พร้อมกองทัพเรือได้พิจารณาปูนบำเหน็จด้านสิทธิกำลังพลสูงสุด ให้แก่ผู้เสียชีวิตขณะปฏิบัติงานในสภาพที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต โดยขอพระราชทานพิจารณาปูนบำเหน็จ ให้เลื่อนขั้นเงินเดือน 7 ชั้น และได้รับการเลื่อนยศ เป็นเรือตรี โดยในส่วนของสิทธิกำลังพลของ พลทหาร สุริยา ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ แบบเฉพาะกิจ 500,000 บาท เงินประกันภัยหมู่ แบบพิทักษ์พล กห.500,000 บาท เงินช่วยเหลือเยียวยาจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 500,000 บาท เงินจากกองทุน “น้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ” 100,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง