นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการวิชาการและยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญ เรื่อง โรคติดเชื้อไวรัสซิกา เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังและหารือมาตรการป้องกันโรคดังกล่าว
จากการประชุม ได้มีข้อเสนอแนะกรณีป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสซิกาในการบริจาคเลือด ซึ่งการคัดกรองผู้บริจาคเลือด ผู้บริจาคต้องผ่านเกณฑ์ดังนี้ 1.ผู้ที่บริจาคเลือดจะต้องไม่มีอาการไข้ หรือ ผื่น ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือตาแดง ปวดข้อ ปวดหัว อ่อนเพลีย ภายใน 4 สัปดาห์ก่อนบริจาคเลือด 2.ผู้ที่บริจาคเลือดต้องไม่ได้อยู่ในครอบครัวเดียวกัน และ ไม่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีอาการดังข้างต้น 3.ผู้ที่บริจาคเลือดต้องไม่มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาด ภายใน 4 สัปดาห์ก่อนบริจาคเลือด
ทั้งนี้ หากผู้บริจาคเลือดที่บริจาคเลือดไปแล้ว มีอาการไข้ หรือ ผื่น ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ตาแดง ปวดข้อ ปวดหัว อ่อนเพลีย หลังจากบริจาคเลือดภายใน 2 สัปดาห์ ต้องรีบแจ้งกลับมายังศูนย์บริจาคโลหิต สำหรับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสซิกา คือ 1.ควรมีระบบการติดตามทารกที่คลอดจากมารดาที่ได้รับเลือดขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงการตั้งครรภ์ ไตรมาสแรก 2.แจ้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกา
3.การคัดกรองเลือดก่อนให้หญิงมีครรภ์ (ไม่รวมขณะคลอด) ให้พิจารณาตรวจภาวะติดเชื้อไวรัสซิกาในเลือดก่อนถ่ายเลือดให้หญิงมีครรภ์ ซึ่งภายในเดือนนี้จะมีการเชิญประชุมศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ และรายละเอียดแนวทางปฏิบัติเรื่องการรับบริจาคเลือดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี