เกิดเหตุดราม่าขึ้นที่ จ.อุดรธานี เมื่ออดีตผู้ใหญ่บ้านที่เพิ่งถูกคำสั่งไล่ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน บุกที่ว่าการอำเภอคุกเข่ากราบไหว้ทั้งน้ำตาร้องขอความเป็นธรรมจากปลัด และนายอำเภอนายูง หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกคำสั่งไล่ออกจากตำแหน่ง กรณีอมเงินวัด และเงิน กขคจ.เผยกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่เคยเรียกตนเองมาสอบข้อเท็จจริง วิงวอนให้มีการสอบสวนขึ้นมาใหม่
20 ก.ย.59 เมื่อเวลา 13.00 น.ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอนายูง จ.อุดรธานี นายนพดล ธรรมวงศา อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านห้วยทราย หมู่ 3 ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานี พร้อมลูกชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับ นายบุญส่ง อารมณ์ ปลัดอาวุโส อ.นายูง และ นายวิโรจน์ อุทุมโภค นายอำเภอนายูง หลังจากไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีถูกกล่าวหาว่ามีการยักยอกเงินหลายกรณี และมีคำสั่งจาก นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ให้ไล่ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.59 ที่ผ่านมา
โดยการเดินทางมาครั้งนี้ นายนพดลได้ใส่ชุดผู้ใหญ่บ้านมาเต็มยศ แต่ถูกนายอำเภอตำหนิบอกว่าถูกไล่ออกแล้วจะใส่มาทำไม นายนพดลจึงถอดเครื่องหมายประดับยศว่ามีตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านออกทันที ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์ปลัดอาวุโสอำเภอนายูง ปรากฏว่านายนภดลวิ่งไปคุกเข่ากราบไหว้ทั้งน้ำตาคลอกเบ้ากับปลัดอำเภอทันที เพื่อวิงวอนขอความเป็นธรรมให้มีการสอบสวนตนเองด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเรียกตนเองไปสอบและให้ชี้แจงแต่อย่างใด ขณะที่ปลัดอำเภอได้นำรูปภาพที่มีการสอบสวนนายนภดลมาให้ดู แต่นายนภดลแจ้งว่าภาพนั้นเป็นภาพที่คณะกรรมการสอบวินัย ไม่ใช่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนายบุญส่งเป็นประธานในการสอบสวน
นายนพดล เปิดเผยว่า การสอบสวนครั้งนี้ตนเองยืนยันว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีชาวบ้านบางคนไปร้องเรียนว่าตนเองทุจริตหลายเรื่อง จนนำมาซึ่งคำสั่งจากผู้ว่าฯ ให้ไล่ออกจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ตนเองไม่เคยถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเข้าไปสอบสวน หรือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียงคณะกรรมการสอบสวนวินัยและชี้มูลความผิด ก่อนจะทำหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ให้ไล่ออกทันที โดยขอชี้แจงสื่อมวลชนว่า กรณีข้อกล่าวหาที่มีชาวบ้านบางกลุ่มอยากให้ตนเองถูกไล่ออก คือ 1.เรื่องอมเงินวัดใหม่สัญญาศิริเขต จำนวน 6,000 บาท ทั้งๆ ที่ตนเองไม่มีชื่อในบัญชีเบิกถอนเงินของวัด และมีคณะกรรมการดูแลอยู่แล้ว 2.เงินกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กขคจ.) จำนวน 220,712.39 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวมีคณะกรมาการดูแลเรื่องเงิน และมีชาวบ้านกู้จำนวน 54 ราย เป็นเงิน 219,000 บาท ซึ่งบัญชีรายชื่อชาวบ้านที่กู้เงินแต่ละรายยังมีอยู่ และ 3.เงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 28,087.02 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวมีคณะกรรมการหมู่บ้านดำเนินการอยู่แล้วเช่นกัน
นายนภดล กล่าวอีกว่า ตนเองถูกชาวบ้านบางกลุ่มร้องเรียนมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 54 ปี 56 และปี 58 ซึ่งเป็นเรื่องร้องเรียนกรณีเดียวกันทั้งหมด 2 ครั้งแรก ปลัดอาวุโสคนก่อนสอบสวนแล้วว่าไม่มีความผิด แต่พอนายบุญส่งแล้วมาเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ก็อ้างว่าตรวจสอบข้อเท็จจริงของตนเองแล้วมีมูล ทั้งๆ ที่ปลัดอาวุโสคนนี้ไม่เคยเรียกตนเองไปสอบสวนและชี้แจงเรื่องดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียว แล้วสรุปเอาว่าตนเองมีความผิด จนนำมาซึ่งคำสั่งไล่ออกเนื่องจากทางอำเภอแทงเรื่องไปยังจังหวัด ตนเองอยากขอความเป็นธรรมด้วยเป็นผู้ใหญ่บ้านมาแล้วหลายปี ตั้งใจทำงานเพื่อชาวบ้าน แต่ถูกกลั่นแกล้งจนถูกไล่ออก เพราะทางอำเภอฟังแต่ฝ่ายร้องเรียนเท่านั้น อยากให้มีตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่และเรียกตนเองไปชี้แจงด้วย หากไม่ได้ความเป็นธรรมก็จะอุทธรณ์ไปยังกระทรวงมหาดไทย และร้องไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป
ขณะที่ นายบุญส่ง อารมณ์ ปลัดอาวุโส อ.นายูง ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีแล้ว ทางอำเภอได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้มีการทุจริตเงินหลายกรณี ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้ว ก็มีมูลจึงมีการแทงเรื่องไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จนนำมาซึ่งคำสั่งไล่ออกดังกล่าว ส่วนกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าไม่ได้เรียกมาสอบนั้นก็เรียกมาสอบด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าไม่สอบและให้ผู้เสียหายชี้แจงตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่ นายวิโรจน์ อุทุมโภค นายอำเภอนายูง หลังทราบข่าวได้เดินทางมาชี้แจงกับอดีตผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ว่า ตอนนี้คำสั่งไล่ออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านห้วยทราย มีผลแล้ว คงแก้ไขไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการไปตรวจสอบ และผู้ว่าราชการมีคำสั่งออกมาว่าไล่ออก ต่อไปนายนพดล ก็สามารถดำเนินการได้คือ คงต้องไปร้องต่อศาลปกครอง และยื่นอุทธรณ์กับคำสั่งนี้ต่อกระทรวงมหาดไทยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี