25 ม.ค.61 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) เป็นต้นไป กรมสรรพสามิตจะเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตในสินค้าสุราและยาสูบ เพิ่มขึ้นอีก 2% ของอัตราภาษีสรรพสามิตที่เสียในปัจจุบัน เพื่อนำเงินรายได้ส่งบำรุงเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ปีงบประมาณละไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตามที่ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ กำหนดไว้ โดยเงินดังกล่าวจะนำไปจัดสรรช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่อยู่ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณของภาครัฐ ในการรองรับสังคมสูงวัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวจะกระทบต่อต้นทุนราคาสุราและยาสูบบ้างแต่ไม่มาก เริ่มต้นแค่หลักไม่กี่สิบสตางค์ เช่น หากเดิมบุหรี่หนึ่งซองเสียภาษีสรรพสามิต 25 บาท ก็จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 50 สตางค์ ส่วนจะกระทบต่อราคาขายปลีกในท้องตลาดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ประกอบการ และโรงงานยาสูบ ว่าจะยอมแบกรับภาษีที่เพิ่มขึ้นเองได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาจะต้องเป็นบุหรี่และสุราที่เสียภาษีตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.61 เป็นต้นไป ดังนั้น จึงขอเตือนให้ร้านค้าปลีก ค้าส่ง อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบขึ้นราคาทันที เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าสต๊อกเก่าอยู่ ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตแจ้งเพิ่มว่า การเก็บภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบ เพิ่มขึ้นอีก 2% ในครั้งนี้ จะครอบคลุมทั้งบุหรี่ที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ ไวน์ ซึ่งประเมินว่าจะทำให้มีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในปีนี้ประมาณ 4,200 - 4,600 ล้านบาท จากฐานรายได้การเก็บภาษีสุราและบุหรี่ที่อยู่ประมาณปีละ 200,000 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากมีการส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุ 4,000 ล้านบาท ขณะที่ส่วนเกินจะถูกนำส่งเข้าเป็นรายได้ของแผ่นดิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี