กรมประมงรุกหนักจำกัดสัตว์น้ำถิ่น"เอเลี่ยนสปีชี่ส์"3ชนิดพันธุ์ที่ห้ามตามประกาศ ปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ เดินหน้าตัดวงจรชีวิต หลังพบแพร่ระบาดทั้งในบ่อเลี้ยงและธรรมชาติ
11 พ.ค.61 ที่ชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามลุ่มน้ำสวี อ.สวี จ.ชุมพร นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานจัดกิจกรรมชาวชุมพรร่วมใจขจัดภัยหมอสีคางดำ (รักษ์ลุ่มน้ำสวี) เพื่อกำจัดปลาหมอสีคางดำหลังพบเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาด
นายอรุณชัย กล่าวว่า จากกรณีพบปลาหมอสีคางดำแพร่กระจายพันธุ์ในบ่อเลี้ยงของเกษตรกรสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากให้กับผู้เลี้ยงปลาและกุ้ง กรมประมงได้ออกคำสั่งที่ 223/2561 ลงวันที่ 28 ก.พ.61 แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ในพื้นที่จังหวัดที่พบมีการแพร่ระบาด กรมประมงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นของเกษตรกรชาวประมงและชุมชน เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาดของปลาสายพันธุ์นี้ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และทำลายสัตว์น้ำพื้นถิ่นของประเทศ
นายอรุณชัย กล่าวว่า ส่วนการพิจารณานำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นในภาพรวมทั้งหมด กรมประมงยังมีคณะกรรมการด้านความหลากหลายและด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (IBC) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นประกอบการขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นอีกด้วย เพื่อป้องกันมิให้กระทบกับระบบนิเวศของแหล่งน้ำ โดยมีการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 9 ม.ค.61 เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยง พ.ศ.2561 มารองรับการปฏิบัติงาน
สำหรับสัตว์น้ำ 3 ชนิดพันธุ์ที่ห้ามตามประกาศ ได้แก่ ปลาหมอสีคางดำ , ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ โดยในส่วนของประกาศฉบับดังกล่าวจะมีแนวทางปฏิบัติหลักๆ ที่สำคัญ ดังนี้
1.กรณีที่เกษตรกรที่เลี้ยงปลาทั้ง 3 ชนิดในบ่อเพาะเลี้ยง ให้รีบนำปลาดังกล่าวส่งมอบให้เจ้าหน้าที่กรมประมงโดยด่วน
2.กรณีที่ประชาชนทำการประมงแล้วได้ปลาทั้ง 3 ชนิดนี้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ประชาชนสามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ แต่ควรทำให้ปลาตายก่อนนำไปจำหน่าย
3.กรณีที่ปลาทั้ง 3 ชนิดจากธรรมชาติหลุดรอดเข้าในบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรโดยไม่เจตนา เกษตรกรสามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ แต่ควรทำให้ปลาตายก่อนนำไปจำหน่าย
4.กรณีส่วนราชการ สถาบันการศึกษา หรือกรณีจำเป็นอื่นใดที่เพาะเลี้ยงปลาทั้ง 3 ชนิด ไว้เพื่อศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางราชการให้แจ้งขออนุญาตกรมประมงต่อไป
5.ห้ามผู้ใดปล่อยปลาทั้ง 3 ชนิด ลงในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดตามมาตรา 144 แห่ง พ.ร.ก.การประมง 2558
อย่างไรก็ตาม การกำจัดสัตว์น้ำต่างถิ่น (เอเลี่ยนสปีชีย์) ในแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น สามารถดำเนินการได้โดยใช้วิธีการกำจัดด้วยชีววิธี และได้รับความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมง หรือกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ ในการช่วยกันป้องกันและกำจัดสัตว์น้ำต่างถิ่นเพื่อกำจัดวงจรชีวิตการแพร่ระบาดของสัตว์น้ำต่างถิ่น
สำหรับบทลงโทษหากพบผู้ใดฝ่าฝืน ลักลอบนำปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน ปลาหมอบัตเตอร์ เข้ามาในราชอาณาจักร ต้องระวางโทษตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้กระทำความผิดนำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รองอธิบดีฯ กล่าวว่า การกำจัดสัตว์น้ำต่างถิ่นไม่ใช่เรื่องง่าย การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตลอดประชาชนภายในประเทศจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากท่านเลี้ยงหรือครอบครองสัตว์น้ำต่างถิ่น (สัตว์น้ำจากต่างประเทศ) ไม่ควรปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะจะมีผลกระทบอันจะสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศวิทยาของแหล่งน้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี