‘บังรอน’ยังไม่ตาย! แฉผ่าตัดหน้าเหมือน‘ไซซะนะ’ ส่งยาบ้า15ล้านเม็ดซุกอยุธยา

22 ส.ค.61 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) แถลงผลจับกุม นายจิรภัทร วิสุทธิ์คงกมล , นายพลวัตร สายบุตร , นายเสกสิทธิ์ สิงห์เชิดชูวงศ์ พร้อมยาบ้า ปั้มตรา WY จำนวน 7400 มัด หรือกว่า 14.8 เม็ด โดยตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากได้เบาะแสมีขบวนการรับจ้างลักลอบขนยาเสพติด ด้วยการใช้รถบรรทุกคอนเทรนเนอร์ 22 ล้อ ขนยาบ้าจากโกดังลับใน อ.เทิง จ.เชียงราย ปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร มาส่งที่โกดังอีกแห่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนกระจายต่อให้กับผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย จึงได้วางแผนสืบสวนพบที่ตั้งโกดังทั้ง 2 แห่ง ก่อนนำกำลังเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ จนพบกลุ่มผู้ต้องหาขับรถบรรทุก 22 ล้อ เข้าออกโกดังใน อ.เทิง อย่างมีพิรุธ จึงนำกำลังติดตามในขาล่องกลับมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา จนผู้ต้องหาจอดรถริมถนนสายเอเชีย เพื่อรับช่วง จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจค้นจนจับกุมได้

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ผบช.ปส.) ระบุว่า ยาบ้าทั้งหมดนั้นมาจากเครือข่ายกลุ่มว้า เวียงแก่น ขนส่งผ่านชายแดนภาคเหนือ ผ่านประเทศไทย เพื่อนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ มีกลุ่มนายทุนจากทั้งใน สปป.ลาว และมาเลเซีย อยู่เบื้องหลัง น่าสังเกตว่าช่วงหลังขบวนการค้ายาจะเน้นการขนส่งยาเสพติดเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจับไอซ์ ซุกซ่อนในรถขนปูน มีน้ำหนักถึง 1 ตัน มาแล้ว

“ส่วนข้อมูลของกลุ่มนายทุนนั้น ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า 1 ในนายทุนฝั่งลาว คือ นายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน นักค้ายาเสพติดชื่อดัง ซึ่งเคยมีประวัติเคยต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่มาแล้วเมื่อ ปี 2541 โดยเจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้ได้ผ่าตัดทำศัลยกรรมใบหน้าให้คล้ายคลึงกับนายทุนรายอื่น จนเหมือนพี่น้องกัน  จากข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ มีข้อมูลพิสูจน์ทราบว่าบังรอนยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่าอยู่ใน สปป.ลาว ซึ่งพบว่าภรรยาของบังรอนได้เดินทางไปเยี่ยมอยู่ โดยบังรอนมีการผ่าตัดใบหน้าเหมือนกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติดที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้” พล.ต.ท.สมหมาย ระบุ

ทั้งนี้ ยาเสพติดล็อตใหญ่ๆ เชื่อว่าจะมีการลำเลียงออกสู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม และจำนวนยาดังกล่าวหากหลุดออกไปยังแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี จะมีมูลค่ามหาศาล มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท