นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองโฆษกกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าและการขับเคลื่อนกฎหมายเกษตรพันธสัญญา (คอนแทรคฟาร์มมิ่ง) ว่า คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาได้มีผลการดำเนินการดังนี้ 1) เพื่อให้การใช้กฎหมายสามารถปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม จึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ตามที่พระราชบัญญัติฯ ที่มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติงานเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 ฉบับ อาทิ หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งประกอบธุรกิจ เพื่อให้มีรายละเอียดวิธีการขั้นตอนการจดแจ้งการประกอบธุรกิจ เป็นต้น และอยู่ในระหว่างการพิจารณา อีก 2 ฉบับ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเพิ่มเติมก็สามารถพิจารณาออกประกาศได้อีก ตามสภาวะและสถานการณ์ในอนาคต 2)มีผู้ประกอบการสนใจและแสดงเจตนารมณ์ มาขอแจ้งการประกอบธุรกิจและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรแล้ว 187 ราย และมีเกษตรกรที่อยู่ในระบบเกษตรพันธสัญญา กว่า 2 แสนราย ซึ่งเป็นการทำเกษตรพันธสัญญาผลิตด้านพืช เช่น อ้อยโรงงาน การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด การผลิตมันฝรั่ง การผลิตพืชผัก การผลิตไก่เนื้อ ไก่ไข่ การผลิตปลานิล และปลาทับทิม เป็นต้น
3)ได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาท จำนวน 2 เรื่อง โดยสามารถการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วทั้งจำนวน 2 เรื่อง ทั้งนี้ในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการได้มีมติมอบหมายให้ทำการศึกษาและจัดทำสัญญาแนะนำเพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำสัญญาแนะนำเบื้องต้นและเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายจัดทำสัญญาแนะนำเพิ่มเติมอีก เพื่อให้มีรูปแบบสัญญาที่หลากหลายและครอบคลุมการผลิตผลิตผลหรือบริการทางการเกษตรในแต่ละชนิด และจะเสนอคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาให้ความเห็นชอบและส่งเสริมการนำไปใช้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อสร้างความเป็นธรรม และควบคุมการทำสัญญา ทั้งกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ อาทิ ในมาตรา 20 ของกฎหมายได้มีข้อกำหนดในเชิงควบคุมการทำสัญญาเพื่อดูแลให้การจัดทำสัญญาเกิดความเป็นธรรมกับคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ที่ในสัญญาจะต้องมีรายละเอียด เช่น การระบุราคาและวิธีการคำนวณวัตถุดิบและผลผลิตกำหนดอย่างไร และใช้ราคา ณ เวลาใด วันและสถานที่ส่งมอบ เป็นต้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ 1) การจัดทำแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้การเห็นชอบ ภายใน 4 เดือน 2) การสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้แก่บุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกร ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างต่อเนื่อง และการขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรจัดส่งร่างสัญญาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เก็บไว้ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบร่างสัญญาจากผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรในเบื้องต้น ยังไม่พบร่างสัญญาที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติฯ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรหรือเกษตรกรรายใดที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 0-2281-5955 ต่อ 354 สายด่วนโทร. 1170 หรือได้ที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ เกษตรตำบล/เกษตรอำเภอ/ ปศุสัตว์อำเภอ/ สหกรณ์อำเภอ ที่อยู่ใกล้บ้านท่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี