25 ต.ค.61 เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ภายในวัดแจ้ง ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากต่างทยอยนำปิ่นโตที่ภายในบรรจุอาหารคาว หวาน พร้อมด้วยข้ามต้มลูกโยนเพื่อมาร่วมตักบาตรเทโวโรหณะเนื่องในวันออกพรรษา นอกจากพุทธศาสนิกชนชาวไทยแล้วยังมีชาวเมียนมาที่มาประกอบอาชีพบนเกาะสมุยได้เข้าร่วมในพิธีตักบาตรเทโวโรหณะในครั้งนี้ด้วย ซึ่งในทางพุทธศาสนาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เพื่อร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะที่ขาดไม่ได้ในพิธีคือข้าวต้มลูกโยนที่ชาวเกาะสมุยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องนำมาร่วมในการตักบาตรเทโวโรหณะ สำหรับข้าวต้มลูกโยนนั้นมีส่วนประกอบของข้ามเหนียวที่นำไปพัดกับน้ำกระทิจากนั้นนำมาห่อด้วยใบกะพ้อโดยใช้ใบอ่อนของต้นกะพ้อ มีรูปทรงสามเหลี่ยม

จากนั้นชาวบ้านได้มาตั้งแถวบริเวณลานวัดพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ และข้ามต้มหางที่ได้เตรียมไว้รวมตักบาตรจนเต็มรอบอุโบสถวัดแจ้ง โดยกรรมการจัดได้อัญเชิญพระพุทธรูปไม้แกะสลักปางห้ามญาติที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี เดินนำพระมงคลทีปาจารย์ เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ซึ่งเป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์จำนวนมากศรัทธา ได้เดินนำพระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตรจากพุทธศาสนิกชนหลังประกอบพิธีทางศาสนาในอุโบสถ โดยพุทธศาสนิกชนต่างนำมือไปลูบองค์พระพุทธรูปปางห้ามญาติพร้อมกับขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว จากนั้นได้ร่วมกันถวายอาหารและปัจจัยพร้อมฟังธรรมเทศนา เพื่อเป็นการกล่อมเกลาจิตใจ โดยพบว่าในการตักบาตรเทโวโรหณะครั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้สูงอายุเข้าวัดจำนวนมาก ส่วนวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่เข้าวัดเพื่อมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้น้อยมากต่างจากในอดีต

โดยนายวิศาล บรมธนรัตน์ กรรมการวัดแจ้ง ในฐานะประธานคณะกรรมการชุมชนหน้าอำเภอ กล่าวว่า ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าวัดเพื่อร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนาน้องลงนั้น เพราะคนรุ่นใหม่ที่เป็นวัยรุ่นบนเกาะสมุยจะยึดติดกับวัตถุนิยม และเทคโนโลยี มากว่าการเข้าวัดฟังธรรมเพราะถือว่าการเข้าวัดเพื่อทำกิจกรรมทางศาสนานั้นเป็นหน้าที่ของผู้สูงอายุ และเป็นเรื่องที่หน้าเบื่อ จึงทำให้สภาพสังคมของเกาะสมุยหน้าเป็นห่วงกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในครั้งนี้ จึงอยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ให้หันกลับมาช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นหลักนำทางให้กับชีวิต และเป็นที่ยึดโยงจิตใจระหว่างในชุมชนให้มีความรักความสามัคคีอีกด้วย

สำหรับประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะตามพุทธประวัติ กำหนดจัดขึ้น ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 นั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์เทวโลกสู่โลกมนุษย์ที่ประตูเมืองสังกัสสนคร โดยมีขบวนเทพยดาและประชาชนตามส่งเสด็จและรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ และในวันนั้นพระพุทธองค์ทรงเนรมิตให้เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก มองเห็นซึ่งกันและกัน การลงโทษในเมืองนรกยุติชั่วคราวในวันนั้น ดังนั้นจึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันพระเจ้าเปิดโลก ในวันนั้นได้มีประชาชนเป็นจำนวนมาก เฝ้าถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระพุทธองค์ เนื่องจากไม่ได้พบพระพุทธเจ้านานถึง 3 เดือน เมื่อมีประชาชนจำนวนมากมารอถวายภัตาหารจึงเป็นการยากลำบากที่จะได้ถวายอย่างใกล้ชิด คนที่เข้าไม่ถึงจึงนำข้าวสาลีข้าวสุกมาปั้นเป็นก้อนๆ แล้วโยนใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งได้สืบเนื่องเป็นประเพณีมาถึงปัจจุบัน โดยการทำข้าวต้มลูกโยน โยนใส่ในบาตรพระ การทำบุญในวันนี้จึงเรียกว่า ตักบาตรเทโว ซึ่งย่อมาจาก เทโวโรหณะ