7 ธ.ค.61 เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา นายวรพจน์ ศรีใย ปลัดอำภอฝ่ายความมั่นคง อ.พระสมุทรเจดีย์ , พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี สว.สส.สภ.สาขลา , รอ.ทองจันทร์ ทาวันละ หัวหน้าชุด คสช.ประจำอำเภอพระสมุทรเจดีย์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารชุด คสช.เข้าปิดล้อมกระต๊อบปลายวังตั้งอยู่ริมถนน นาขวาง-บ้านล่าง หมู่ที่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ก่อนจับกุมตัว นายพลเอก เข่งสมุทร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และนายกิตติ เจียสำราญ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 139 เม็ด ยาบ้าเม็ดสีส้นอยู่ในสภาพเปลียกน้ำ จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 7.5 กรัม ยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักรวม 2.2 กรัม กัญชาแห้งบดละเอียดและแบบก้อน จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 6.70 กรัม เครื่องชั่งระบบดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น PCX 125 ซีซี สีเขียว หมายเลขทะเบียน 7 กบ 8697 กทม. , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น PCX 125 ซีซี สีขาว-ส้ม หมายเลขทะเบียน 3 กม 9657 กทม. , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ปง ว 65 กทม.และอุปกรณ์การเสพหลายรายการ

โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบชาย 2 คน กำลังนั่งเสพกัญชากันบริเวณกระต๊อบริมวัง ตั้งอยู่ริมถนนนาขวาง-บ้านล่าง หมู่ที่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ พบชาย 2 คน กำลังนั่งเสพกัญชากันเมามัน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง พร้อมกระโดดลงไปในคลองที่อยู่ด้านหลัง จึงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดก่อนจับคุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 คน ที่วิ่งหนีเจ้าหน้าที่แล้วพลาดล้มลงไปในกอต้นจากข้างทาง ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่กระโดดน้ำหนี ทางเจาหน้าที่ได้นำเรือชาวบ้านออกค้นหา มาพบนอนซ่อนอยู่อยู่ในป่าจาก ห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร ก่อนนำตัวทั้ง 2 คน มาสอบสวน พร้อมค้นภายในกระต๊อบ พบยาบ้า ยาไอซ์ และกัญชา ก่อนนำตัวไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจ

จากการสอบสวน นายพลเอก อ้างว่า ตนเป็นหลานชายของอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า ส่วนยาบ้าได้สั่งมาจาก นายโจ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 - 35 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่แถวสาขลา จ.สมุทรปราการ โดยจะสั่งมาครั้งละ 300 - 500 เม็ด และยาไอซ์จะสั่งมาครั้งละ 3 - 5 กรัม ก่อนที่จะนำมาให้นายกิตติ ไปแบ่งขายให้กับวัยรุ่นและกลุ่มเพื่อน ส่วนเงินที่ได้มาจะนำมาแบ่งกันใช้และลงทุนซื้อยาบ้ามาขายต่อ ส่วนกัญชาตนและนายกิตติได้หุ้นเงินกันซื้อเพื่อนำมาแบ่งกันเสพ ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตามรวบตัวได้คากระต๊อบ

ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้าและยาไอช์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 5 กัญชาไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนทรัพย์สินทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป