ผ่าตัดเด็กเหยื่อ‘แก๊งเขี้ยวสยอง’ แม่วอนหน่วยงานช่วยดูแล
28 ม.ค.62 จากกรณี “แก๊งสุนัขจรจัด” ที่อาศัยอยู่บริเวณแพปลา บ้านท่านุ่น ใกล้สะพานสารสิน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา รุมขย้ำ ด.ช.ยืนยง (ดีแมกซ์) ชัยราบ อายุ 7 ปี 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลจากการถูกกัดนับร้อยแผล ตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า ก่อนจะมีการนำตัวส่งรักษายัง รพ.ตะกั่วทุ่ง และส่งต่อไปรักษายัง รพ.วชิระภูเก็ต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผวาเขี้ยวสยอง! 'แก๊งหมาหมู่'รุมขย้ำเด็ก7ขวบแผลเหวอะ)
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 27 ม.ค.62 ที่ผ่านมา ที่ห้องไอซียูศัลยกรรม รพ.วชิระภูเก็ต พญ.ณัฐวรรณ เทพณรงค์ กุมารแพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้ทำการรักษาได้พา นางลำแพน แต้มสี อายุ 43 ปี มารดาของ ด.ช.ยืนยง บิดา และญาติๆ เข้าเยี่ยมอาการภายในห้องไอซียูศัลยกรรม เพื่อดูอาการเป็นเวลาสั้นๆประมาณ 5 นาที ก่อนให้ทั้งหมดออกจากห้องมาคอยอยู่ที่บริเวณด้านหน้า ก่อนที่คณะแพทย์จะนำตัว ด.ช.ยืนยง เข้าทำการผ่าตัด
พญ.ณัฐวรรณ เปิดเผยว่า หลังจากรับตัวผู้ป่วยมา นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ด้านการบริหาร รักษาราชการแทน ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ได้สั่งการให้ทีมแพทย์ 3 ทีม คือ ทีมแพทย์กุมารแพทย์ ทีมแพทย์ศัลยกรรมทั่วไป ศัลยกรรมตบแต่ง ทำการผ่าตัดรักษา โดยเริ่มทำการผ่าตัดในช่วงค่ำวันที่ 27 ม.ค.62 ในส่วนของผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติ ให้ตัวยากระตุ้นหัวใจ และมีปัสสาวะออกดี
ส่วนสภาพบาดแผลมีบาดแผลที่ศีรษะ คอ ลำตัว แขนขา 2 ข้าง เป็นลักษณะบาดแผลฉีกขาดถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังการรักษาเบื้องต้นได้มีการทำความสะอาดบาดแผลแค่ภายนอก หลังจากนี้จะทำความสะอาดบาดแผลเพิ่มเติมและตกแต่งบาดแผลโดยศัลยแพทย์ทั่วไป และศัลยแพทย์ตกแต่ง โดยจะเข้าห้องผ่าตัดเพื่อประเมินบาดแผลในเชิงลึกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเฝ้าระวังดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมกับจะต้องประเมินบาดแผลเรื่องการติดเชื้อ รวมถึงเรื่องความดันโลหิต
ส่วนสภาพจิตใจนั้นเท่าที่ประเมินพบว่ารู้สึกตัวดี แต่ว่ายังรู้สึกหวาดกลัวและปวดบาดแผลอยู่ จิตใจจะต้องได้รับการฟื้นฟูซึ่งจะต้องให้แพทย์จิตเวช มาช่วยประเมินสภาพอารมณ์และความรู้สึกอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นในคืนนี้(27 ม.ค.62) คาดว่าจะต้องประเมินเรื่องบาดแผลและสัญญาณชีพฉุกเฉินไปก่อน และต้องอยู่ในห้องไอซียูเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ด้านนางปรีดา ไมหมาด น้าของ ด.ช.ยืนยง กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังแต่งตัวจะไปทำงาน น้องชายของคนเจ็บวิ่งมาพร้อมด้วยน้องสาวอีกคนหนึ่ง โดยมาบอกว่าช่วย ด.ช.ยืนยงด้วย เพราะกำลังจะตาย ถูกหมากัด ตนเองรู้สึกตกใจจึงถามว่าอยู่ที่ไหน ทั้งสองจึงรีบพาไปยังที่เกิดเหตุ ตอนที่ไปถึงพบ ด.ช.ยืนยง นอนอยู่ในแอ่งน้ำ กำลังใช้มือปัดสุนัข ซึ่งขณะนั้นมีสุนัข 1 ตัวกำลังกัดอยู่ที่ขา และอีก 2-3 ตัวกำลังวนเวียนอยู่โดยรอบ ซึ่งสุนัขกลุ่มดังกล่าวมีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์บางแก้ว โดยตนและเด็กๆได้พกไม้คนละ 1 อันเพื่อป้องกันตัว เมื่อไปถึงก็ใช้ไม้แกว่งไปมา ทำให้สุนัขล่าถอย ก่อนจะเข้าไปช่วย ด.ช.ยืนยง ออกมาได้
ส่วนนางลำแพน แม่ของ ด.ช.ยืนยง กล่าวว่า สุนัขทั้ง 4 ตัวนั้นเคยเห็นมาเป็นประจำ โดยจะเข้ามาขโมยกินไก่ที่บ้าน ซึ่งตนเคยไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ดำเนินการ ล่าสุดเคยพุ่งเข้าตะครุบหลานๆ ซึ่งนั่งอยู่ที่ชายทะเลหลังบ้านแต่เคราะห์ดีช่วยได้ทัน ขณะนี้ได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา แล้ว
สำหรับสุนัขตัวดังกล่าวทราบว่ามีคนเคยเลี้ยงไว้และเมื่อพบว่าดุร้าย มีการกัดสัตว์เลี้ยง จึงปล่อยให้อยู่เองในบริเวณนั้น และมาที่บริเวณบ้านของตนประจำ ตนเองเชื่อว่าเป็นกลุ่มสุนัขที่ดุร้าย เพราะขนาดช่วงที่ช่วยลูกชายนำส่งโรงพยาบาลก็ยังมีสุนัข 2 ตัววิ่งตามมาที่บ้าน ที่ผ่านมาสัตว์เลี้ยงไม่ว่าไก่หรือลูกหมูของชาวบ้านก็จะถูกกัดไปแล้วหลายตัว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือ เนื่องจากตนเองก็ลำบากเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ต้องทำงาน ปกติตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ ตนจะอยู่บ้านกับลูก แต่วันนี้เป็นวันหยุดของลูกจึงต้องออกไปทำงาน ต้องปล่อยให้อยู่กันเอง
“รู้สึกน้อยใจที่กฎหมายมีคุ้มครองสุนัข แต่ไม่คุ้มครองคน ถ้าเป็นสุนัขถูกรถชนก็จะไม่วิกฤตเพราะมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือช่วยเหลือจำนวนมาก แต่วันนี้ลูกของฉันทั้งคนจะให้คิดยังไง ทั้งนี้ลูกชายของฉันเป็นนักกีฬาดีเด่นของโรงเรียนบ้านท่านุ่น มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไรอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลลูกของฉันด้วย” นางลำแพน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี