ฝุ่นพิษแพร่วิกฤติซ้ำ
‘เลย-ลำปาง’สาหัส
ไฟป่าลามมลพิษพุ่ง
สั่งปิดดอยพระบาท
เหนือ-อีสาน ฝุ่นพิษทะลัก หลายจังหวัดยังเกินมาตรฐาน กระทบสุขภาพ ไฟป่ากระหน่ำซ้ำไหม้ลามกินวงกว้าง กรมฝนหลวงฯลุยขึ้นบินทำฝนเทียมสู้ทั้งฝุ่นทั้งไฟ ลำปางประกาศปิดดอยพระบาทถึงเม.ย. ใครฝ่าฝืนขึ้นไปถือว่าเป็นคนจุดไฟ “แพร่”วิกฤต PM 2.5 พุ่ง 104 มคก. ขณะที่กทม.-ปริมณฑลคุณภาพอากาศดีขึ้น
สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังน่าเป็นห่วง สาเหตุจากการเผาในที่โล่งและไฟป่า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่แล้ว
ไฟป่าเลยขยายวงกว้าง
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย พ.อ.อำนวย ยอดพันธ์ หัวหน้ากองกิจการ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า อพปร.อบต.ศรีสองรัก สนธิกำลังกว่า 300 นาย เร่งดับไฟป่าพร้อมทำแนวกันไฟ บริเวณป่าภูสะนาว ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูห้วยหมาก ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย เป็นวันที่ 2 หลังคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดไฟป่ารุกลามไปกว่า 2 กิโลเมตรส่งผลให้พื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งวันนี้ไฟยังคงไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง ตามแนวกันไฟเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 กม.และยังมีท่าทีจะรุกลามต่อไป
เร่งทำแนวกันไฟคาด2-3วันดับสนิท
นายกิตติคุณ กล่าวว่า ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้าดับไฟป่าบนภูสะนาวมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง สามารถระงับไฟป่าได้ระดับหนึ่ง แต่วันนี้ยังคงเห็นเปลวไฟอยุ่บนภูสะนาวบางส่วน จึงได้นำกำลังชุดเดิมขึ้นไปสกัดไฟป่าอีกครั้ง พร้อมทำแนวกันไฟป้องกันไฟลาม ขณะเดียวกัน ได้ใช้อุปกรณ์ดับไฟ ฉีดน้ำไปด้วย คาดว่าจะใช้เวลา 2–3 วันจึงดับไฟได้ จนถึงขณะนี้พื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า 500 ไร่
ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพ
ในส่วนค่าการตรวจวัดสภาพอากาศใน อ.เมือง จ.เลย โดยแอพพลิเคชั่น Air4Thai รายงาน สภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่า คุณภาพอากาศหรือ AQI สูง วัดได้ถึง 170 ไมโครกรัม และในส่วนวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่าสูงถึง 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
เหยี่ยวไฟลำปางเร่งดับไฟป่าหลายจุด
เช่นเดียวกับที่ จ.ลำปาง เกิดไฟป่าหลายจุด โดยเฉพาะแนวเทือกเขาดอยพระบาท เขาสูงที่กั้นระหว่างอ.เมืองลำปาง อ.แม่เมาะ และอ.แม่ทะ ทำให้มีกลุ่มควันลอยคลุ้งปกคลุมเต็มเมือง นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส่วนควบคุมไฟป่า ชุดเหยี่ยวไฟในพื้นที่ รวม 4 สถานีและจ.เชียงใหม่ จิตอาสาประมาณ 100 นาย เดินเท้าขึ้นสกัดไฟ โดยจะเร่งปฎิบัติการดับไฟทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งได้เดินเท้าเข้าไปจุดเกิดไฟ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะควบคุมไฟป่าได้ทั้งหมดหรือไม่ สำหรับพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้จนถึงขณะนี้ กินพื้นที่ไปแล้วประมาณ 500-600ไร่ และยังลุกลามเกิดไฟป่าข้างทาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร ถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง
สั่งปิดป่าดอยพระบาทถึงเม.ย.
ต่อมา นายสมเกียรติ ตันตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และพ.อ. ประสาน ไกรสิงห์เดชา รองเสนาธิการศูนย์อำนวยการการป้องกัน และแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาคส่วนหน้า ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นตรงกันว่าควรให้ออกประกาศปิดป่าดอยพระบาท ตั้งแต่วันนี้ (11 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปจนถึงเดือนเมษายน ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการป้องกัน และดับไฟป่าเข้าไปในเขตป่าดอยพระบาทเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่จะสนธิกำลังตั้งด่านตรวจตามเส้นทางเข้าออก พร้อมลาดตระเวนรอบพื้นที่ป่าดังกล่าว ถ้าพบ ใครเข้าไปในป่า แล้วเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น ให้ต้องสงสัยว่า เป็นผู้ที่เข้าไปจุดไฟทำให้เกิดไฟป่าขึ้นบนดอยพระบาท และถ้าพิสูจน์ทราบได้ว่าจุดไฟเผาจริงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ลุยทำฝนหลวงดับไฟป่า-สู้PM2.5
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ หน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จ.ขอนแก่น ขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง แก้ปัญหาฝุ่นเกินมาตรฐาน เริ่มมีปัญหาในหลายจังหวัดภาคอีสาน และดับไฟป่า จ.เลย ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้ฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย เนื่องจากมีความชื้นสัมพัทธ์ 97 %และความชื้นระดับบน 84 % เอื้อต่อการก่อเมฆ รวมทั้งดัชนีค่ายกตัวดีมาก -2.1 % จึงตัดสินใจขึ้นปฏิบัติการใช้เครื่องบินคาซ่า 2 ลำ โปรยสารสร้างแกนเมฆ อ.โกสุมพิสัย จ.สารคาม และอ.เปยน้อย จ.ขอนแก่น และเที่ยวที่สองขึ้นโปรยสารในขั้นตอนเลี้ยงเมฆให้อ้วน โดยเสริมให้เมฆพัฒนาตัว และตกในพื้นที่เป้าหมายได้ พร้อมกันนี้ เครื่องบินทั้งสองลำได้บรรทุกสารฝนหลวง โปรยสร้างแกนเมฆ อ.ภูผามาน จ.ขอนแก่น และจ.หนองบัวลำภู เพื่อให้เกิดฝนตกป่าภูสระ ดับไฟป่าที่กำลังเกิดขึ้นด้วย
กทม.ปริมณฑลอากาศแจ่มใส
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปริมาณ PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์เกือบทุกพื้นที่ ค่าฝุ่นอยู่ที่ 13-43 มคก./ลบ.ม.ปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่ ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครและสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดีมาก – ดี มีเพียงบางพื้นที่ที่คุณภาพอากาศปานกลาง สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ ยกเว้นผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวัง และดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่น PM 2.5 ต่อเนื่อง เพื่อควบคุมไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน
แพร่วิกฤติฝุ่นพุ่ง105มคก.
ต่อมาเวลา 14.00 น. คพ.รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่มีค่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ. ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.ในเมือง จ.ขอนแก่น วัดได้ 80 มคก./ลบ.ม. แสดงสีส้มลดลงจากช่วง 3 วันที่ผ่านมา ที่ฝุ่น PM2.5 เข้าขั้นวิกฤตสีแดง ต.นาอาน อ.เมือง จ.เลย 79 มคก./ลบ.ม. ภาคกลาง ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 51 มคก./ลบ.ม. ภาคเหนือ ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ 105 มคก./ลบ.ม. ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 53 มคก./ลบ.ม. ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 82 มคก./ลบ.ม. ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 80 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 70 มคก./ลบ.ม. ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 60 มคก./ลบ.ม.
นายกฯขันน๊อตทุกหน่วยงานแก้ฝุ่นพิษ
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นต่อเนื่อง โดยได้รับรายงานว่าขณะนี้คุณภาพอากาศโดยรวมดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีบางพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เช่น จ.ลำปาง และ จ.ขอนแก่น เนื่องจากมีการเผาวัชพืช ซึ่งนายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ไม่ควรเผาวัชพืช เพราะนอกจากเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่นแล้วยังทำให้เกิดอัคคีภัยได้อีกด้วย นอกจากนี้ นายกฯยังกำชัหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นให้เข้มแข็งต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่ที่มีปัญหา และพื้นที่ปกติ ทั้งตรวจจับควันดำ เน้นใช้เชื้อเพลิงสะอาด คุมการก่อสร้าง ห้ามเผาที่โล่งเด็ดขาด พร้อมวางมาตรการแก้ปัญหาระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี