8 มี.ค.62 ว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า ได้รับแจ้งจาก นายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันตำบลเกาะคอเขา ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณทุ่งหญ้าในที่ดินของเอกชน ซ.พัฒนา ม.4 ต.เกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา จึงนำกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมสมาชิก อส.อำเภอตะกั่วป่า เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือทันที โดยมีการประสานงานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองตะกั่วป่า 1 คัน , เทศบาลตำบลคึกคัก 1 คัน , เทศบาลตำบลบางนายสี 1 คัน , อบต.เกาะคอเขา 1 คัน และ อบต.บางม่วง 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่รีบเดินทางเข้าให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ต้องนำรถดับเพลิงทั้งหมดลงเรือบรรทุกรถขึ้นไปยังเกาะคอเขา การเดินทางเป็นได้ความยากลำบาก เมื่อรถดับเพลิงไปถึงก็ระดมช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยุ่งยาก บางจุดรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้
ด้าน นายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันตำบลเกาะคอเขา ได้นำรถเครื่องจักรหนัก (ชนิดรถตักดินล้อยาง) ขับลุยเข้าในพื้นที่ไฟไหม้ป่า เพื่อตักทรายไปถมไฟที่กำลังติดอยู่ให้ดับ และทำแนวกันไฟ และรถดับเพลิงทำการฉีดน้ำควบคุมอยู่เป็นระยะ ไม่มีบ้านเรือนหรือทรัพย์สินเสียหาย โดยเพลิงได้ลุกลามไหม้ที่ดินบริเวณใกล้เคียง เนื้อที่รวมประมาณ 400 - 500 ไร่ สาเหตุคาดว่าเกิดจากอากาศร้อนและการเสียดสีของกิ่งไม้ใบหญ้า หรือไม่เป็นการทิ้งก้นบุหรี่ลงในพื้นดินข้างถนน
จากการตรวจสอบพบว่า ไฟไหม้ครั้งนี้ส่งผลให้สวนปาล์มน้ำมัน , สวนมะพร้าว และต้นสน ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายร้อยไร่ นอกจากนั้นแล้ว พบเห็นสัตว์ป่า ทั้ง กวาง เต่าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ วิ่งหนีไฟที่กำลังลุกไหม้ป่าอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เพลิงยังไม่สงบ เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเป็นป่าพรุ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นป่าพรุใกล้ทะเล ลมพัดแรง และมีหญ้าแห้งจำนวนมาก ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับฝนไม่ตกมาหลายเดือนทิ้งช่วงนานกว่าปกติ ทำให้อากาศร้อนมาก ลมพัดเข้าหาชายฝั่ง ล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงได้ในระดับหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงใช้รถดับเพลิงทำการฉีดน้ำควบคุมอยู่เป็นระยะ เบื้องต้นไม่มีบ้านเรือนหรือทรัพย์สินเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดชุดปฏิบัติการในแต่ละตำบล เฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหน้าแล้ง เพื่อเป็นการป้องกันไฟไหม้ป่าต่อไป
ขณะที่ ว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่ ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ส่งผมทำให้พื้นที่ป่าพรุ สวนปาล์มของชาวบ้านบางส่วนได้รับความเสียหายกว่า 500 ไร่ และยังมีสัตว์ป่า ทั้ง กวาง เต่า และสัตว์ป่าอื่นๆ ได้รับผลกระทบ แม้ว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่หลายหน่วยสามารถควบคุมสถานการณ์บริเวณโดยรอบได้ไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่อาศัยของประชาชา ในส่วนของป่าพรุเริ่มดับบ้างแล้ว แต่ก็มีครุขึ้นเป็นระยะตามสภาพของลมที่พัด พร้อมได้จัดรถน้ำเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี