ป่วนหนักรับวันตั้งBRN
ยิงถล่มฐานทหารตากใบ
ลอบบึ้มชาวบ้านเจ็บ
บุกรวบ3ผู้ต้องสงสัย
ชายแดนใต้ระอุครบรอบ 59 ปี“บีอาร์เอ็น” เหตุรุนแรง 3 จุด ยิงถล่มฐานทหารตากใบเจ็บ 2 ชาวบ้านเจ็บ1 อาคาร-รถ4คันเสียหาย ลอบบึ้ม’บาเจาะ’หญิงวัย50เจ็บ ซุ่มยิงตร.หนองจิก ก่อนปะทะเดือด ขณะปิดล้อมรวบ3ผู้ต้องสงสัย คาดเตรียมวางแผนก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคมต่อเนื่องถึงช่วงเช้าวันที่ 14 มีนาคม เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น 3 เหตุการณ์คือ1.เกิดเหตุคนร้ายยิงเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม79ถล่มฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ชุดป้องกันชายแดนที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อกลางดึกคืน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต 2.เกิดเหตุวางระเบิดริมทางหลวงหมายเลข 42 ปัตตานี-นราธิวาส ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านส้มป่อย ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ช่วงเวลา9โมงเช้า แรงระเบิดทำให้มีชาวบ้านบาดเจ็บ1ราย เป็นหญิงอายุ 50 ปี ชื่อนางเจ๊ะแมะ สะนิ เป็นชาวอำเภอบาเจาะ นำส่ง รพ.บาเจาะ และในช่วงเวลาใกล้เคียง เกิดเหตุซุ่มยิงชุดสืบสวนสภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานีขณะออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ต่อมาเวลา09.30น.พล.ต.ต.ดุษฏี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาสและร.ต.ท.วัฒนา ธุรารัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบพร้อมกำลังตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินไปตรวจสอบที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ตั้งอยู่ หมู่3บ้านศรีพะงัน ต.เกาะสะท้อนอ.ตากใบ หลังถูกคนร้ายวางระเบิดและยิงถล่มฐานเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่13มีนาคมที่ผ่านมา ถึงที่เกิดเหตุ พบเป็นบริเวณถนนตัดผ่านหน้าฐานเป็นจุดคนร้ายลอบวางระเบิด ทำให้ถนนคอนกรีตแตกเสียหายเป็นวงกว้าง 1เมตรและที่บริเวณอาคารที่จอดเรือยนต์ของหน่วย มีขนาด8คูณ 8เมตรที่อยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก อยู่ในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายทั้งหลังเหลือเพียงแต่โครงไม้ให้เห็น
จากการตรวจสอบภายในฐาน อยู่ตรงประตูทางเข้าพบอาคารน็อคดาวน์ที่ใช้เป็นกองบัญชาการกองร้อย(บก.ร้อย)ได้รับความเสียหาย 1หลัง โครงของอาคาร ได้พังลงมาทับรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋ง รวมทั้งหมด 4 คันได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ในที่เกิดเหตุมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิค หนัก25 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณและส่วนหนึ่งได้ตกลงในแม่น้ำสุไหงโก-ลกเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณถนนหลังฐานห่างไปประมาณ100เมตร พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16และกระสุนปืนอาก้าจำนวนกว่า50ปลอก ตกอยู่ริมไหลถนนพร้อมซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ตกอยู่2จุดห่างกันประมาณ 5เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายจำนวน5ถึง6 คนพร้อมอาวุธปืนครบมือแฝงตัวมากลับความมืดใช้ถนนหลังฐานเป็นบังเกอร์ ใช้อาวุธปืนเอ็ม16และอาก้ายิงถล่มใส่ฐานเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในฐานแยกย้ายกำลังไปที่บริเวณด้านหลังของฐานยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้ายนานประมาณ 5นาที
เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดได้แยกย้ายกันตอบโต้ที่บริเวณหลังฐาน คนร้ายอีกชุดหนึ่งได้แอบขี่รถจักรยานยนต์3ล้อพ่วงข้างที่บรรทุกระเบิดแสวงเครื่อง ที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก็สปิกนิก หนัก 25กิโลกรัม จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสารที่คนร้ายได้ใช้ถังพลาสติกที่ใช้สำหรับบรรจุน้ำดื่มสีขาวตัดก้นถัง แล้วนำมาครอบระเบิดไว้เพื่อใช้อำพรางในขณะขนย้ายระเบิดมาวางที่บริเวณริมถนนหน้าฐานแล้วคนร้ายได้หลบหนีพร้อมทั้งได้ทำการจุดชนวนระเบิดขึ้น ส่งผลทำให้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกอาคารสำหรับใช้เป็นที่จอดเรือได้รับความเสียหายทั้งหลังและสะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกอาคารน็อคดาวน์ที่ใช้เป็น บก.ร้อย พร้อมเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย
ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งตั้งฐานอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้นำกำลังมาสนับสนุนคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้นำกำลังล่าถอยไปโดยได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ขว้างจำนวน2ลูกเพื่อสกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่และเมื่อคนร้ายได้พากับหลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้มาช่วยกันดับไฟแต่ด้วยกระแสลมแรง ทำให้เปลวไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมต้นเพลิงเอาไว้ได้
เบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ3นาย ประกอบด้วย1. จ.ส.อ.ชนะ จันทวงศ์ อายุ 42ปีมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิด ที่บริเวณหน้าท้อง 2.พลทหารอุเทน จันทร์มณี อายุ23ปี บาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ข้อเท้า และ3.นายอาฟิ เจ๊ะสือแม อายุ 24 ปี เป็นชาวบ้าน กำลังรับจ้างแบกลูกมะพร้าว ลงเรือส่งมาเลเซียซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ40เมตร มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะเจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลตากใบ ในช่วงคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว คาดใช้เรือเป็นพาหนะในการก่อเหตุ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่กำลังรับจ้างแบกมะพร้าวอยู่ที่บริเวณท่าเทียบเรือใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อทำการสอบสวนปากคำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือพัวพันหรือไม่หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกประวัติไว้แล้วปล่อยตัวกลับ
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา10.30น.พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานีพร้อม พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43,พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชรพิรุณ ผกก.สภ.หนองจิก ชุดสืบสวน สภ.หนองจิกฉก.ทพ.43 ,กก.สส.ภ.จว.ปัตตานีร่วมปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ บ้านค่าย หมู่7 ต.ปุโละปุโย ต่อมา คนร้ายที่อยู่ในบ้าน1คนได้กระโดดหนีทางหน้าต่างและได้ใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้และสามารถควบคุมบุคคลภายในบ้านอีก3คน ได้แก่ 1.นายอิสมาแอ อาแว 2.นายมะสุกรี สาและและ3.นายอิสรอเป สิเดะ
จากการตรวจค้นยึดอาวุธปืนขนาด.38มม.พร้อมกระสุนประมาณ 20นัด เจ้าหน้าที่กำลังเคลียร์พื้นที่และเก็บวัตถุพยานหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐาน น่าจะรวมตัวกันเพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ตามภาพข่าวแจ้งเตือน
สำหรับกิจกรรมในวันครบรอบ 59 ปีสถานปนาขบวนการบีอาร์เอ็น ได้มีการออกแถลงการณ์ผ่านยูทูบ ประกาศเดินหน้าเพื่อปลดปล่อยดินแดน “ปาตานี”หรือสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป โดยใช้เงื่อนไขการยึดครองของสยามเหนือดินแดน “ปาตานี” ผ่านสนธิสัญญาแองโกล-สยามซึ่งสนธิสัญญานี้ลงนามเมื่อวันที่ 10 มีนาคมปี2452 เพิ่งครบ 110 ปี ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นมีการสร้างกระแสพ่นสีตามถนนและราวสะพานเป็นคำว่า”ปาตานี 110” ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ยังเชื่อว่าเหตุระเบิดหลายจุดที่จังหวัดสตูลกับพัทลุงช่วงวันที่ 10 มีนาคม เป็นการกระทำของกลุ่มที่มาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สร้างกระแสเรื่อง”ปาตานี 110” และวันสถาปนา 59 ปีกลุ่มบีอาร์เอ็นด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี