ถอดบทเรียน
คดีเสือดำเจ้าสัว‘เปรมชัย’
โดนแค่สนับสนุนล่า
อสส.ขอดูคำพิพากษา
จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
จัดเสวนาฯถอดบทเรียนคดี “เจ้าสัวเปรมชัย” หลุดคดีครอบครองซาก “เสือดำ” เจอแค่สนับสนุนการล่า ด้านรองโฆษก อสส.ขอเวลาศึกษาคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนตัดสินใจยื่นอุทธรณ์หรือไม่หลังศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตัดสินคดีล่าสัตว์ป่าของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)และพวก โดยจำคุก 16 เดือน และยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ)
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร จัดเสวนาเรื่อง “1 ปี คดีเสือดำ กับคำตัดสินที่รอคอย” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถ.สามเสน กรุงเทพฯ โดยนายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรกล่าวว่า หลังเห็นคำพิพากษาที่นายธานี ทุมมาศ นายพรานที่พานายเปรมชัยเข้าป่า และถูกระบุว่าเป็นผู้ล่าสัตว์ป่า ถูกตัดสินจำคุกรวม 2 ปี 17 เดือน หรือเท่ากับ 3 ปี 5 เดือน ทั้งนี้ ก่อนมีคำพิพากษา ทางมูลนิธิฯคาดเดาว่า 1.นายเปรมชัยจะถูกลงโทษในฐานะตัวการเพราะคณะที่เดินทางเข้าป่า ขออนุญาตในนามนายเปรมชัย และค่าใช้จ่ายนายเปรมชัยก็เป็นผู้ออก
2.นายเปรมชัยจะถูกลงโทษทั้งล่าและครอบครองซากสัตว์ป่า แต่ศาลอาจตัดสินโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา และ 3.นายเปรมชัยอาจหลุดคดีล่าเสือดำ เพราะเคยให้ข่าวว่าเสือดำมาอย่างไรก็ไม่รู้ อาจถูกดำเนินคดีเพียงครอบครองซากสัตว์ป่า
“พอตัดสินออกมาแบบนี้ แสดงว่าพยานหลักฐานไปถึงว่านายเปรมชัยสนับสนุนการล่า ผมก็นึกไปว่าหลุดจากมาตราใน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าหรือไม่ ก็มีผู้รู้ทางกฎหมายมากบอกว่ายังไม่หลุด ก็ยังถือว่านายเปรมชัยล่าสัตว์ป่า แต่พอมาเปรียบเทียบความผิด ล่ากับสนับสนุนการล่า ศาลตัดสินชัดว่านายธานีล่า นายเปรมชัยสนับสนุนการล่า อันนี้สำคัญ แสดงว่าโทษนายเปรมชัยน้อยกว่านายธานี แต่ศาลพิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญา ผมคาดการณ์ไว้ 3 กรณี ก็ยังอยู่ในกรณีที่ 1 ที่ร่วมล่าและไม่รอลงอาญา”นายศศิน กล่าว
และว่า อย่างไรก็ตามกลายเป็นว่า ไม่มีใครเป็นหัวหน้าคณะเข้าไปล่าสัตว์ มีแต่นายธานีที่เป็นผู้ล่าหลัก และนายเปรมชัยได้รับโทษเบากว่าทั้งที่เป็นหัวหน้าคณะ นอกจากนี้ ซากเสือดำถูกระบุว่าอยู่ในการครอบครองของนายธานี นายยงค์ โดดเครือ และนางนที เรียมแสน ส่วนนายเปรมชัยถูกระบุว่าครอบครองเพียงซากไก่ฟ้าหลังเทา เรื่องนี้กลายเป็นข้อน่าสงสัย เพราะวันที่มีข่าวจับกุมนายเปรมชัยและพวก มีหม้อต้มซุปหางเสือ และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบว่าเลือดที่เขียงและมีดที่ยึดได้จากจุดพักของคณะนายเปรมชัยมี DNA ตรงกับหนังเสือดำที่ปรากฏในข่าว ดังนั้น เสือจึงมีเพียงตัวเดียว เหตุใดนายเปรมชัยจึงไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองซากเสือดำ หลังจากนี้ต้องติดตามชั้นอุทธรณ์ต่อไป
นายศศินกล่าวอีกว่า หากคดีไปถึงชั้นอุทธรณ์ โทษ 16 เดือนของนายเปรมชัยจะติดไปด้วย ถ้าไม่มีหลักฐานเพิ่มเติมจากกรมอุทยานฯและจากอัยการ ผู้สันทัดกรณีทางกฎหมายแสดงความเป็นห่วงว่าโทษ 16 เดือนจะค่อยๆ ลดลงหรือไม่ ถ้าฝ่ายกฎหมายของนายเปรมชัยเก่งจนสามารถใส่ข้อมูลไปว่านายเปรมชัยไม่เกี่ยว เป็นความผิดครั้งแรก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดเจตนา และอีกสารพัด ตนคาดการณ์ว่าถ้าตนเป็นฝ่ายนายเปรมชัยจะตั้งธงไว้ที่รอลงอาญาคือ ตนมองไปที่การรับโทษ นายเปรมชัยผิดแน่นอน แต่จะรอหรือไม่รอลงอาญาที่อุทธรณ์หรือฎีกา ก็ต้องมองไปที่จุดนั้น
ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า หลังจากนี้ต้องรอศาลเผยแพร่คำพิพากษาฉบับเต็มก่อน แล้วอัยกานจึงจะไปขอคัดสำเนามาศึกษาก่อน ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ อย่างไร ซึ่งมีระยะเวลา 30 วัน ถ้ายื่นไม่ทันสามารถขอขยายเวลายื่นได้ ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมให้โอกาสทุกฝ่ายต่อสู้คดี ฝ่ายนายเปรมชัยอาจเห็นว่าโทษหนักไปจะอุทธรณ์ขอให้ศาลลดโทษลง ส่วนฝ่ายอัยการอาจเห็นว่าโทษน้อยไป หรือไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาที่บอกว่านายเปรมชัยเป็นผู้สนับสนุน ก็อาจอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาได้ เป็นสิทธิ์ที่กฎหมายกำหนดไว้
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า คดีแบบนี้ไม่ซับซ้อน อัยการที่มีหน้าที่อยู่ในเขตอุทยานหรือเขตป่าก็เคยทำคดีแบบนี้กันเป็นปกติ ซึ่งจะอุทธรณ์หรือไม่ เป็นหน้าที่ของอัยการคณะทำงานที่ต้องเสนอความเห็นไปที่อัยการสูงสุดพิจารณาว่าสมควรอุทธรณ์หรือไม่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของอัยการ เพราะมีการลงชื่อกำกับ ต้องการให้ถูกตรวจสอบได้ว่าทำความเห็นสั่งคดีอย่างไร
ขณะที่นายธัชพงศ์ แกดำ ผู้ประสานงานกลุ่ม T’Challa พิทักษ์เสือดำ ให้ความเห็นว่า เมื่อศาลมีคำตัดสินออกมาแล้วก็ต้องยอมรับ แม้ว่าตนและอีกหลายคนจะติดใจประเด็นที่นายเปรมชัยหลุดออกจากคดีครอบครองซากเสือดำก็ตาม เพราะหากนายเปรมชัยไม่เข้าไปในป่าวันนั้น จะมีเสือดำและไก่ฟ้าหลังเทาถูกยิงตายหรือไม่ ที่ผ่านมาตนและกลุ่ม T’Challa เรียกร้องเสือดำต้องไม่ตายฟรี แต่ผลออกมากลายเป็นไก่ฟ้าหลังเทาต้องไม่ตายฟรี ซึ่งวันนี้สังคมรู้แล้วว่านายธานีเป็นคนยิง ส่วนนายเปรมชัยเป็นผู้สนับสนุน แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมองคือ เจตนาในการเข้าป่า
“ในที่เกิดเหตุมีอาวุธปืนร้ายแรง มีเครื่องมือพร้อมล่าสัตว์ได้แทบทุกชนิด แต่พอเรามาเจอการครอบครองซากเสือดำมีแค่ 3 คน แต่นายเปรมชัยคนเดียวที่ไม่มี ขณะที่เป็นผู้สนับสนุนและซากเสือดำก็อยู่ตรงนั้น แต่กลายเป็นครอบครองแค่ไก่ฟ้าหลังเทา นี่คือคำถามที่คาใจมาก ผมเชื่อว่าถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่สามารถอธิบายรูปคดีที่ออกมาเป็นแบบนี้ได้คนก็ยังสงสัย” นายธัชพงศ์ กล่าว
ด้าน นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุมนายเปรมชัยและพวก กล่าวว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของคดีต้องทำงานเพื่อรวมรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และต้องไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่ก็มีทั้งทีมพญาเสือและทีมสัตวแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ ส่งหลักฐานไปยังพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่องจนยุติการสอบสวนและส่งสำนวนต่อไปยังอัยการ หน้าที่ของตนก็ถือว่าจบลงเท่านี้ แต่หลังมีคำพิพากษาออกมาคาดว่าทางกรมฯ คงจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี