ตัวแทนโรงแรมพัทยาร้องสื่อ ถูกชายฉกรรจ์กว่า 30 คนบุกยึดโรงแรมดังพัทยา ต้อนนักท่องเที่ยวต่างชาติออกจากโรงแรม ร้อง พล.อ.ประวิตร ดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมม จนท.รัฐเอี่ยวด้วยเจ้าของยันเอาเรื่องถึงที่สุด
24 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากตัวแทนบริษัท ยูโร สตาร์ จำกัด ว่าถูกกลุ่มเจ้าหนี้บุกเข้ากดดันยึดโรงแรม ยูโรสตาร์ ตั้งอยู่ซอยจอมเทียน 1 ริมชายหาดพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เกิดความหวาดกลัว ทรัพย์สินสูญหายและเสียหายหลายรายการ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางบริษัทเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้นำเอกสารต่างๆ และรูปถ่ายมาเป็นหลักฐานประกอบเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน และเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.อนุกูล ปรีดายุทธ ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา
โดยนายสิทธิชัย จารุรักษา ทนายตัวแทนของบริษัท ยูโร สตาร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 ทางบริษัท ยูโรสตาร์ ได้ไปขอกู้ยืมเงินมาหมุนเวียนจาก บริษัท เคเอ็ม 16 บางนา จำกัด ในจำนวนเงิน 170 ล้านบาท มีการตกลงจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 บาท/เดือน และมีการชำระทุกเดือน แต่ในการปล่อยเงินกู้ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ไปก่อน ซึ่งทางยูโรสตาร์ ก็ได้ยินยอมทำสัญญาแต่ได้มีการทำสัญญาซื้อคืน หลังจากนั้นได้เกิดมีข้อพิพาทขึ้น เมื่อทาง บริษัท เคเอ็ม 16 บางนา จำกัด พร้อมด้วย จนท.จากกองบังคับคดี จนท.ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตร.ท่องเที่ยวพัทยา และชายฉกรรจ์ มาเป็นทีมเกือบ 30 คน เพื่อเข้ามาทำการปิดล้อมขับไล่ ทางทนายของบริษัทยูโร สตาร์ จึงได้เข้าเจรจาต่อลอง
เนื่องจากในคดีนี้หลังจากมีการยินยอมแล้ว ทางบริษัท เค เอ็ม 16 บางนา จำกัด ได้มีการแถลงเท็จเพื่อรายงานกับพนักงานบังคับคดี ว่าทางฝ่ายจำเลยไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สิน จึงมีการขอออกหมายจับ และมาปิดล้อมปักป้ายเพื่อทำลายทรัพย์สิน มีการลักทรัพย์กล้องวงจรปิดและเซิฟเวอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นการกระทำผิด ทาง บริษัท ยูโรสตาร์ ได้มอบอำนาจให้ตนได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด ทางบริษัท ยูโรสตาร์ ได้มีการยื่นคำร้องเข้าไป 2 ฉบับ เพื่อคัดค้านและแสดงอำนาจพิเศษ ซึ่งศาลได้รับคำร้องไว้เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างที่ต้องมีการไต่สวนต่อไป
นายสิทธิชัย จารุรักษา ทนายตัวแทนของบริษัทยูโร สตาร์ ยังกล่าวฝากถึง สำนักงาน ปปง. ว่าบริษัทดังกล่าว มีเบื้องหลังน่าจะเป็นนอมินี ของคนต่างชาติ ได้ใช้กฎหมายเพื่อมาเล่นงานคนไทย และอยากส่งข้อความคิดเห็นนี้ไปถึง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ให้เข้ามาดูข้อเท็จจริงคดีนี้ เพราะมีการเรียกร้องเงินทองมหาศาลถึง 300 กว่าล้าน จึงอยากให้ส่งทีมงานเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากทางบริษัทโดนข่มขู่มาโดยตลอด กระทั่งในขณะที่ได้มีการแถลงข่าวยังมีการส่งชายฉกรรจ์เข้ามาควบคุมดูแล ทั้งที่กองบังคับคดีฯ ได้แจ้งว่ายังไม่สามารถส่งการครอบครองทรัพย์สินให้ได้ เนื่องจากยังอยู่ในการโต้แย้งทางคดีกันอยู่ และได้มีการแสดงหลักฐานการแจ้งคัดค้านคดีให้ดูแล้ว แต่ก็ยืนยันว่าจะเข้ามาปิดล้อมตัวโรงแรมไว้ให้ได้
ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นได้มีชายฉกรรจ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมแล้ว ประมาณ 30-40 คน คล้ายกับว่าน่าจะมีการเตรียมการไว้ล้วงหน้า ด้วยการกระทำคือ บางส่วนได้ทำการเชื่อมเหล็กล้อมรั้ว ปิดโรงแรม บางส่วนได้ตัดกล้องวงจรปิดและทำลายเซฟเวอร์กล้องวงจรปิด ซึ่งในระหว่างนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 30-40 ชีวิต รับประทานอาหารและพักอยู่ภายในโรงแรมด้วย ก็ได้ถูกขับไล่ให้ไปกับรถตู้ออกไปทั้งหมด สร้างความตกใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังได้พาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจดูบริเวณที่ถูกล้อมรั้วด้วยโครงเหล็กปิดด้วยแผ่นเมทัลชีท จุดที่กล้องวงจรปิดถูกถอดออกไป จุดที่โดนตัดไฟฟ้าซึ่งเป็นของการไฟฟ้า รวมไปถึงจุดที่ทางคู่กรณีได้นำป้าย ระบุอาคารนี้เป็นทรัพย์สินของ บริษัท เคเอ็ม 16 บางนา จำกัด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ด้านเจ้าของโรงแรมยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพร้อมครอบครัว หลังเกิดเหตุได้บินกลับประเทศเลยในทันที พร้อมอีเมลแจ้งยืนยันว่า ตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตนมาเที่ยวเมืองไทยเป็นประจำทุกปีและพักผ่อนนานเป็นเดือน ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี