เข้มสกัด‘อหิวาต์หมู’ทุกด่านชายแดน เฝ้าระวังซากลูกสุกรทำ‘หมูหัน’
25 มิ.ย.62 นายสัตวแพทย์(น.สพ.) จีระศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมกับผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร ว่า กรมฯเตรียมความพร้อมมาตรการเผชิญเหตุ หากมีการระบาดระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) หลังจากองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ประกาศพบการระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยได้ร่วมกันพิจารณาถึงแนวทางป้องกันโรคไม่ให้เข้าประเทศ และเตรียมรับมือในกรณีพบการระบาดของโรคในประเทศไทย
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เพิ่มเข้มงวดในการป้องกันโรค ได้แก่ การเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรให้ตรวจสอบระบบการออกใบเคลื่อนย้ายภายในจังหวัดที่มีการประกาศเขตเฝ้าระวังโรคระบาด โดยให้ออกใบ ร.3 หรือ ร.4 รวมถึงต้องแจ้งปลายทางก่อนเคลื่อนย้าย อีกทั้งให้ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายซากลูกสุกรที่นิยมมาทำหมูหัน โดยต้องมีแหล่งที่มาชัดเจนเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องเชือดโดยโรงเชือดถูกกฎหมาย ที่จะต้องระบุการเคลื่อนย้ายซากลูกสุกรเป็นจำนวนตัว พร้อมกันนี้เร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรรายย่อยในจังหวัดที่มีความเสี่ยงในการระบาดของโรค
สำหรับมาตรการควบคุมการส่งออกอาหารสัตว์และวัตถุดิบไปยังประเทศกัมพูชา และลาว ให้กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ รวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบการแล้วจัดประชุมปรับวิธีการขนส่ง โดยไม่ให้รถขนส่งเข้าสู่ฟาร์มที่มีการระบาด ให้สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติเร่งอบรมการใช้เครื่องตรวจสารพันธุกรรมแบบเคลื่อนที่ (Portable PCR) เพื่อให้ตรวจวินิจฉัยโรคได้เร็วในพื้นที่เสี่ยง สำหรับการปราบปรามโรงเชือดเถื่อน และโรงเชือดที่มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น ได้กำชับให้มีพนักงานตรวจโรคก่อนเข้าเชือดเพื่อป้องกันการนำสุกรที่ป่วยเข้าเชือด
ในส่วนของมาตรการตรวจสอบตลาดสดและเขียงขายเนื้อหมู ทุกแห่งต้องมีใบอนุญาตค้าซากและรับซากจากแหล่งที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณพรมแดน นอกจากนี้ต้องประชุมติดตามสถานการณ์ของโรคที่ศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) ในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับลาวและกัมพูชา เพื่อให้เกิดการตื่นตัวและสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน ขอให้ผู้ประกอบการร่วมมือสำรวจประชากรสุกรรอบๆฟาร์มในรัศมี 5-10 กิโลเมตร เพื่อเป็นพื้นที่กันชนและช่วยเหลือไม่ให้เกิดโรคในฟาร์มเหล่านั้น รวมทั้งให้ติดต่อปศุสัตว์จังหวัดเพื่อขอทราบแผนปฏิบัติป้องกันโรคในพื้นที่
“สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำแก่ปศุสัตว์จังหวัดตามแนวชายแดน คือ ให้ประสานงานกับแขวงต่างๆของลาวเพื่อช่วยเหลือและร่วมมือและควบคุมโรคในลาว ซึ่งล่าสุดทางการลาวได้แสดงความขอบคุณกรมปศุสัตว์ไทยที่จัดส่งยาฆ่าเชื้อและอุปกรณ์ในการป้องกันโรค ASF ที่ด่านชายแดนระหว่างประเทศ” นายสัตวแพทย์จีระศักดิ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ระบาดในลาว ยังมีอย่างต่อเนื่องในเขต Toumlan จังหวัด Salavane หลังพบโรคครั้งแรกในเดือนมิ.ย.62 โดย Dr.Syseng KHOUNSY อธิบดีกรมปศุสัตว์และการประมงของลาว ระบุว่า จะช่วยลดความเสี่ยงของการระบาดไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ Savannakhet Champasak Sekong และ Attapua ทั้งนี้ไทยมอบอุปกรณ์บังคับสุกรชนิดสั้น 50 ชิ้น อุปกรณ์บังคับสุกรชนิดยาว 50 ชิ้น เครื่องพ่นชนิดสะพายหลัง 30 เครื่อง เครื่องพ่นยาขนาดใหญ่ 10 เครื่อง น้ำยาฆ่าเชื้อ 200 ลิตร และเครื่องช็อตทำสลบไฟฟ้า 200 เครื่อง หากเกษตรกร ผู้ประกอบการ หรือสมาคมผู้เลี้ยงสุกรต้องการสิ่งใดเพิ่ม กรมปศุสัตว์ไทยยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ตามหลักการความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนระหว่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี