กรณีเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าทำร้ายร่างกาย นายสุธรรม ชัยยะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 7 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ด้วยการใช้ของมีคมฟันศรีษะและแทงซ้ำบริเวณลำคอและคาง จนเสียชีวิตข้างบ้าน ในลักษณะนอนหงายสวมกางเกงในสีดำเพียงตัวเดียว พบศพเมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยตำรวจพบว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์สิน เนื่องจากทรัพย์สินที่ติดตัว ประกอบด้วย สร้อยคอทำคำหนัก 1 บาท 1 เส้น , แหวนทองคำ 2 วงๆ ละ 1 สลึง และเลสข้อมือหนัก 2 สลึง รวมทองคำหนัก 2 บาท หายไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (2 กรกฎาคม 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ลานสกา , พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.ป.และ พ.ต.ท.ศิริพร ช่วยคุ้ม รอง ผกก.สส.สภ.ลานสกา พร้อม ร.ต.อสุกรี พรหมมาศ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รายงานความคืบหน้าคดี โดยสรุปประวัติของนายสุธรรม ผู้ตาย อย่างละเอียด ว่า นายสุธรรม มีอาชีพเก็บของเก่าขายมานานหลายปีแล้ว มีภรรยาและบุตร 2 คน เป็นผู้ชาย ส่วนลูกชายแยกมีครอบครัวอยู่ต่างพื้นที่ ต่อมาเมื่อหลายปีก่อนนายสุธรรม และภรรยาติดโรคร้ายแรง จึงไม่ค่อยมีเพื่อนบ้านมายุ่งเกี่ยวมากนัก กระทั้งไม่นานมานี้ภรรยาของนายสุธรรม เสียชีวิตเนื่องจากโรคร้ายกำเริบ โดยนายสุธรรม นำแหวนทองคำ 2 วง ไปจำนำเอาไว้ และนำเงินจัดงานศพภรรยา

ต่อมาเมื่อประมาณ 2 เดือน นายสุธรรม ตัดสินใจขายบ้านของตัวเองราคา 5 แสนบาท ให้ครอบครัวชาวต่างชาติ โดยผู้ซื้ออนุญาตให้นายสุธรรม อาศัยที่บ้านหลังเดิมจนกว่าจะไปสร้างบ้านใหม่เสร็จ หลังจากได้เงินขายบ้าน 5 แสน นายสุธรรม จึงนำเงินไปไถ่แหวนทองคำ 2 วง ที่จำนองเอาไว้ และซื้อสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท 1 เสน เลสข้อมือหนัก 2 สลึง 1 เส้น สวมใส่ติดตัวตลอดเวลา แม้ช่วงที่ตระเวนออกไปหาของเก่า ในพื้นที่ อ.ลานสกา และใกล้เคียง จนชาวบ้านให้ฉายาว่า "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" ขณะที่ญาติๆ พยายามเตือนเรื่องสวมใส่ทองคำรูปพรรณติดตัว เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากคนร้ายที่จ้องก่อเหติงทรัพย์ แต่นายสุธรรม ไม่เชื่อฟัง กระทั้งเกิดเหตุนร้ายบุกฆ่าชิงทองดังกล่าว

โดยก่อนเกิดเหตุคาดว่าช่วงเย็นวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากนายสุธรรม ออกเก็บของเก่า และกลับมาถึงบ้านก็ถอดเสื้อผ้า นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว เพื่อนำของเก่ามาแยกเก็บไว้ข้างบ้าน และได้มีคนร้ายคาดว่า 1 - 2 คน ใช้ของมีคมน่าจะเป็นมีดพร้า และมีดปลายแหลม เข้าข่มขู่บังคับชิงทองคำที่นายสุธรรม ใส่ แต่นายสุธรรม ไม่ยอมให้จึงเกิดการต่อสู้ จึงถูกคนร้ายใช้ของมีคมฟันศรีษะ แล้วแทงซ้ำที่ลำคอและคาง 2 แผล จนนายสุธรรม เสียชีวิตคาที่ จากนั้นคนร้ายชิงเอาสร้อยคอทองคำ เลสข้อมือ และแหวนทองคำ หลบหนีไป ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ โดยเฉพาะเงินสด อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ว่าคนร้ายเข้ารื้อค้นและชิงเอาไปด้วยหรือไม่ ส่วนคนร้ายคาดว่าเป็นคนในหมู่บ้านที่เห็นผู้ตายที่เป็นแค่คนหาของเก่าขาย แต่สวมสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ และเลสข้อมือทองคำ เหมือนตู้ทองคำเคลื่อนที่ และล่อตาล่อใจ จึงสะกดรอยตามถึงบ้านก่อนมือฆ่าชิงทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เค้าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุแล้วอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอขอหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดตามกฎหมายต่อไป

ส่วนศพของนายสุธรรม ผู้ตาย ญาติตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดถลุงทอง ต.หินตก อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีญาติๆ และเพื่อนบ้าน เดินทางมาช่วยเตรียมการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ แต่ยังไม่มีกำหนดการฌาปนกิจที่แน่ชัด ซึ่งต้อรอลูกทั้งสองคน รวมทั้งญาติๆ ปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่าจะทำการฌาปนกิจศพนายสุธรรม วันไหน

นายโชคดี สุวรรณพรรณ อายุ 44 ปี หลานชายของนายสุธรรม ผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายสุธรม ผู้ตาย ปกติผู้ตายไม่สุงสิงกับผู้ใด แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร หลังภรรยาเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้ นายสุธรรม อาศัยอยู่คนเดียว และยึดอาชีพออกหาของเก่าขาย เมื่อไม่นานมานี้ นายสุธรรม ขายบ้านได้เงิน 5 แสนบาท และนำเงินส่วนหนึ่งซื้อสร้อยคอ แหวน และสร้อยข้อมือ และสวมใส่ติดตัวตลอดเวลา แม้ช่วงออกหาของเก่าตามริมถนน กรณีที่นายสุธรรม ผู้ตาย สวมใส่ทองคำรูปพรรณเต็มตัว คาดว่าเป็นที่หมายปองของคนร้าย ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ เพราะอาจจะเป็นคนจากต่างพื้นที่ที่เห็นนายสุธรรม สวมใส่ทองรูปพรรณเต็มตัว จึงสะกดรอยตามมาลงมือก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ โดยนายสุธรรม ผู้ตาย พยายามต่อสู้ขัดขืนจึงถูกคนร้ายฟันและแทงจนเสียชีวิต ก่อนชิงทอคำรูปพรรณหลบหนี ซึ่งกรณีที่นายสุธรรม ไม่ต่อสู้ขัดขืนและไม่ยอมให้ทรัพย์สินคนร้ายไป ตนก็เชื่อว่าคนร้ายก็ยังลงมือฆ่านายสุธรรม เพื่อปิดปากอยู่ดี

ส่วนการติดตามจับกุมคนร้าย ตนไม่ทราบว่าตำรวจดำเนินการไปถึงไหนอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการ แต่ตนและญาติๆ ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ให้ช่วยเร่งสอบสวนสืบสวนติดจับตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด