8 สิงหาคม 2562 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 15 สูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เข้าไปยังคลองสายหลักและคลองสาขาเข้าไปให้เต็มลำคลองสนับสนุนการดับไฟป่าพรุควนเคร็งซึ่งล่าสุดเปลวเพลิงที่ปะทุขึ้นบริเวณป่าบ้านไสขนุน หมู่ที่ 11 ตำบลเคร็ง  อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังลุกลามไปยังตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะที่คลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ตำบลหัวไทร อำเภอหัวไทรและตำบลเคร็ง อำเภอชะอวดซึ่งเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ 2 ลำ บินมาตักน้ำ 32 เที่ยว เที่ยวละ 3,500 ลิตร รวม 112,000 ลิตรไปโรยสกัดแนวไฟป่าที่โหมแรงให้บรรเทาลงเพื่อที่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภาคพื้นดินจะสามารถเข้าพื้นที่สกัดการลุกลามได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ยังเสริมเครื่องสูบน้ำเพิ่มเป็น 35 เครื่อง เดินเครื่องแล้ว 31 เครื่อง สำรองไว้ 4 เครื่องเนื่องจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าครั้งนี้ที่ทำให้ทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติเสียหายเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบด้วย โดยศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่าสรุปการเกิดเพลิงลุกไหม้สะสมรวมล่าสุดถึง 91 ครั้ง พื้นที่เสียหายประมาณ 5,028 ไร่ประกอบด้วยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด 32 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 1,989 ไร่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช 28 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 2,210 ไร่ เขตป่าสงวนแห่งชาติ 13 ครั้ง พื้นที่เสียหาย   113 ไร่ พื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 13 ครั้ง เสียหาย 201 ไร่ พื้นที่เอกชน 1 ครั้ง เสียหาย 1 ไร่ และพื้นที่อื่นๆ 7 ครั้ง เสียหาย 520 ไร่ ซึ่งขณะนี้ยังคงมีไฟลุกลามบางจุดและต้องฉีดพ่นน้ำควบคุมการปะทุได้แก่ บริเวณหมู่ที่ 6 และ 11 ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด ไฟยังคงลุกลามเล็กน้อย บริเวณหมู่ที่ 8 1และ 12 ตำบลการะเกด รวมถึงหมู่ที่ 1 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ สถานการณ์เบาบางลง 
  
“การติดตั้งเครื่องสูบน้ำนั้นครอบคลุมทั้งอำเภอชะอวด เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ หัวไทร และร่อนพิบูลย์  กำลังติดตั้งเพิ่มที่ทำนบชั่วคราวบางตาตั่ว ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว​ กรมชลประทานจะยังคงเร่งสูบน้ำสนับสนุนอย่างเต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” นายทองเปลว กล่าว