เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเก็บรวบรวบพยานหลักฐานมาตั้งแต่เกิดเหตุ แต่อาจไม่ได้เป็นข่าว รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่ในคดีเดิมเพื่อดูความเชื่อมโยงว่าส่วนใดบ้างที่ขาดหายไป
"ส่วนพยานหลักฐานบุคคลมีอยู่บางส่วนแล้ว และกำลังพยายามหาเพิ่มเติม หากใครมีเบาะแสให้แจ้งมาได้ที่สายด่วนดีเอสไอ 1202 โดยเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นในทุกส่วนๆ แต่ไม่ได้แถลงสังคมให้รับทราบ เนื่องจากเป็นรายละเอียดในสำนวนคดีอุ้ม"อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระบุว่า ที่ผ่านมาคนในพื้นที่ไม่เคยพบว่ามีเจ้าหน้าดีเอสไอลงพื้นที่ทำคดีเลย อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บข้อมูลในหลายรูปแบบ มีการแฝงตัวเข้าไป และเข้าพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเข้าไปในรูปแบบชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูลจากคนในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมที่เคยมีอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี ออกมาระบุว่าจุดที่มีการทิ้งถังน้ำมันและกระดูกบิลลี่ไม่ใช่พื้นที่ปิด และการให้ข่าวของดีเอสไอกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ไม่ขอตอบโต้ในเรื่องนี้ แต่จะดูตามพยานหลักฐานที่จะปรากฏในคดี เพราะการทำคดีจะต้องพิสูจน์กันตามพยาน หลักฐานและมีผลพิสูจน์ทางดีเอ็นเอที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยหลักการในการทำคดีต่างๆ มีพยาน 3 ส่วนคือ พยานเอกสาร พยานบุคคลและพยานวัตถุที่จะนำไปสู่การระบุตัวผู้กระทำผิด ซึ่งดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด
ส่วนพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรหรือไม่นั้นทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะการทำคดีดีเอสไอจะทำในรูปแบบคณะกรรมการมีหลายฝ่ายเข้าร่วม ทั้ง สตช. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีที่ปรึกษาเป็นอัยการฝ่ายสอบสวน ดังนั้นการจะทำอะไรแต่ละอย่างไม่ได้ทำเพียงหน่วยเดียวแต่จะทำในรูปคณะกรรมการทั้งหมดทุกขั้นตอน หากเป็นเรื่องไม่จริงคณะกรรมการก็ไม่มีทางเซ็นยินยอมซึ่งทุกตอนขั้นตอนการทำงานของดีเอสไอ ตรวจสอบได้
“จริงๆพยานหักฐานมีอยู่แล้วแต่ต้องการให้มีความรอบคอบเพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็สั่งการให้ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลาอีก 1 เดือนตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ แต่ระหว่างที่หลักฐานที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะยังไม่มีการออกหมายจับ” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี