ใครว่าเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยได้อ่านหนังสือกันเท่าไรนัก เพราะมัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือกันตลอดเวลา ซึ่งแท้จริงแล้ว การที่คนก้มหน้ามองแต่โทรศัพท์กันจนกลายเป็น “สังคมก้มหน้า” นั้น มันคือการอ่านหนังสือกันนั่นเอง เพราะ “ การอ่านเป็นการสร้างความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต”
คนส่วนใหญ่มีความสุขกับการได้อ่านหนังสือ และคนเหล่านี้ก็จะได้รับประโยชน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ “ได้รับความรอบรู้จากการอ่านนั้นๆ ไปด้วย”
ม.ล.ลือศักดิ์ จักรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด จะรู้ถึงความสุขในการอ่านหนังสือได้อย่างแท้จริง เพราะเขาเป็นผู้จัดทำ“โครงการส่งความรู้สร้างความสุข” ให้กับเยาวชน ทั่วประเทศมาเป็นปีที่ 2 แล้ว
ม.ล.ลือศักดิ์ จักรพันธุ์ เล่าให้ฟังว่า โครงการส่งความรู้สร้างความสุขปีเป็นความร่วมมือกัน ระหว่าง บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการสานต่อโครงการ ที่มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาการเรียนรู้(ของเยาวชน) สู่อนาคต
สำหรับกิจกรรมในโครงการนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสอ่านหนังสือมากขึ้น โดยมีเป้าหมายสนับสนุนให้โรงเรียนจัดตั้งชมรมรักการอ่าน โดยให้จัดกิจกรรม “อ่านวันละ 15 นาที” เริ่มจากโรงเรียนเป้าหมายขั้นต่ำ 50 โรงเรียน และขยายครอบคลุมทั่วประเทศ 77 จังหวัด ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยทางเจ้าของโครงการจะนำชั้นวางหนังสือและสมุดบันทึกรักการอ่านไปมอบให้กับทางโรงเรียน พร้อมนำกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเข้าไปให้นักเรียนได้ร่วมสนุก รวมถึงให้ทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จัดให้มีการอ่านหนังสือ 15 นาทีทุกวัน เพื่อเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้มีการขยายโครงการเพื่อมอบโอกาสให้ผู้ที่สนใจสนับสนุนได้มีส่วนร่วมสนับสนุนหนังสือให้กับเด็กๆและเยาวชนผ่านทางร้านนายอินทร์ ทุกสาขา เว็บไซต์ naiin.com และเว็บไซต์ sandeeforgood.comที่นอกจากทำโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ยังเป็นการสร้างประโยชน์อย่างสูงสุดให้กับสังคมด้วย
ม.ล.ลือศักดิ์ จักรพันธุ์ เพิ่มเติมให้ทราบอีกว่า สำหรับในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ 2 ของโครงการ เราได้เดินสายจัดกิจกรรม School Roadshow ขึ้นใน 8 โรงเรียน คือที่ โรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี, โรงเรียนบ้านโดท่างาม จังหวัดมหาสารคาม, โรงเรียนบ้านแม่ยางตาล จังหวัดแพร่ และโรงเรียนบ้านยาป่าแหน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเด็กๆ ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดีในบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกและอบอุ่น
แน่นอนว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกและอบอุ่น มันคือ ความสุข ที่เด็กๆ ได้รับจากการอ่านหนังสือนั่นเอง
คุณอภิชาติ โตดิลกเวชช์ที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกคนหนึ่งที่ อยู่ติดกับโครงการนี้ เปิดใจให้ทราบว่า ไทยเบฟ รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการส่งความรู้สร้างความสุข เรายังคงมุ่งมั่นตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะความสำคัญของการอ่าน เพราะการอ่านคือรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะของเด็ก ที่สำคัญ ยังเป็นการปลูกฝังอุปนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับเด็กไทย ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมแบ่งกันอ่าน แบ่งกันเล่น แบ่งกันเล่า เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรักการอ่าน และเห็นประโยชน์ของการอ่านมากยิ่งขึ้น
จากโครงการนี้ เราได้พบกับความมหัศจรรย์ของการอ่าน จากกิจกรรมที่เกิดขึ้นโดยในแต่ละโรงเรียนจะมีศิลปินดารา, ทูตนักอ่านชื่อดัง
ที่เดินทางไปพบนักเรียนตามโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนหันมาใส่ใจการอ่านหนังสือ อีกทั้งยังให้เด็กๆ เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการอ่านอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
เรียกว่าผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อน ปลูกฝังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนหันมาอ่านหนังสือกันด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด เพื่อยืนยันถึงความจริงที่เกิดขึ้น เราขอนำรูปจากกิจกรรมในวันนั้นมาให้เห็นกันจะจะเลยก็แล้วกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี