ตบตาจนท.! ตะครุบ2หนุ่มลอบใช้‘รถกู้ภัย’ขนยาบ้า แลกค่าจ้างนับล้าน

30 กันยายน 2562 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 พร้อมตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด เฝ้าติดตาม หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้ามาส่งลูกค้าในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รถกู้ภัยเป็นพาหนะ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และหลีกเลี่ยงการจับกุม ไม่ให้ตำรวจตรวจค้นตามด่านต่างๆ ซึ่งจากการเฝ้าติดตามปรากฏว่าเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 29 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมรถกู้ภัยต้องสงสัยได้บนถนนราชมรรคาในตัวเมืองเชียงใหม่

จากการตรวจสอบรถยนต์กู้ภัยเขียนสติกเกอร์ติดข้างรถชื่อมูลนิธิแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทะเบียน บล 1669 เชียงราย มีคนนั่งมาในรถ 2 คน คือ นายทศพล ชัยแก้ว คนขับ และนายอาทิตย์ ไชยวรศิลป์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นในรถพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง สอบสวนผู้ต้องหา สารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้ามาจากนายทุนคนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 2 คน คือ นายธนดล วรสูตร และนางธาตรี มาตี พร้อมด้วยของกลางรถเก๋งทะเบียน กษ 1206 เชียงราย พร้อมกระเป๋าเป้บรรจุยาบ้านับรวมกัน จำนวน 592,000 เม็ด

เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจากจากนายอาร์ม ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลให้นำยาเสพติดจำรวน 500,000 เม็ด ไปส่งให้กับผู้ค้าที่กรุงเทพฯ โดยจะได้รับค้าจ้างเม็ดละ 2.50 บาท รวมค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 1,250,000 บาท โดยการติดต่อผู้ชื้อทางโทรศัพท์  และทำการติดต่อกับเจ้าของยาเสพติดอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเมียนมา ชื่อนายอู๋ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นคนไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเมียนมา ติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “มังกรคู่” ที่รู้จักกับนายอู๋ เพราะเคยเป็นลูกค้าซื้อไส้กรอกและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี  ต่อมาหลังจากนายอาร์มฯและนายอู๋ ได้ตกลงซื้อขายยาเสพติดกันแล้ว จึงได้ไปรับเอายาเสพติดของกลางดังกล่าวข้างต้น ที่บ้านเวียงหอม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ก่อนนำยาเสพติดนำมาใส่หลังรถตู้บรรทุกของมูลนิธิฯ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมดได้แยกย้ายกันเดินทางมา จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางแม่สาย- แม่จัน-แม่สรวย-เวียงป่าเป้า-ดอยสะเก็ด  ตรงเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อขับรถตามกันมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ช่วยกันลำเลียงกระเป๋าบรรจุยาเสพติด จากรถยนต์ตู้ ไปยังรถยนต์ เพื่อจะส่งมอบให้ให้กับผู้ลำเลียงยาเสพติดต่อไป แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”