“กมธ.สาธารณสุข”บุก“อภัยภูเบศร”ดูงานกัญชาโมเดล ชมเปาะเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง แนะศึกษาปลดล็อค“กัญชง-กระท่อม” ใช้ในทางการแพทย์ต่อไป “ดร.สุภาภรณ์”ประกาศไทยพร้อมเป็นผู้นำกัญชาของโลก เตรียมกระจาย“น้ำมันกัญชา”นำร่อง 11 โรงพยาบาล 9 ตุลาคม นี้
1 ตุลาคม 2562 กรรมาธิการ(กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยคณะรวมเกือบ 20 คน เดินทางเข้าเยี่ยมชม “กัญชา อภัยภูเบศรโมเดล” ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี , นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร , ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปการดำเนินงาน “กัญชา อภัยภูเบศรโมเดล” ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนในฐานะประธาน กมธ.สาธารณสุข และสังกัดพรรคภูมิใจไทย มีสัญญากับประชาชนจะผลักดันเรื่องกัญชา กัญชง ให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ทั้งในการดูแลสุขภาพและสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ ทุกคนรอความหวัง เราจึงต้องมาดูงานที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีความพร้อมที่สุดในขณะนี้ ทั้งประสบการณ์การวิจัยด้านสมุนไพรมายาวนาน และมาตรฐานในการผลิต เป็นที่พึ่งที่หวังของชาติและประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะปลดล็อคกฎหมายที่ล้าหลังไม่ทันต่างประเทศทั้งที่เรามีองค์ความรู้มากมาย ซึ่งนอกจากกัญชาแล้วอยากฝากให้ทาง รพ.อภัยภูเบศร ศึกษากัญชง กระท่อม เพื่อปลดล็อคกฎหมายให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ต่อไป
ด้าน นพ.นำพล กล่าวว่า หลังจากที่รพ.อภัยภูเบศร ได้สกัดน้ำมันกัญชาได้จำนวนหนึ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การกระจายน้ำมันกัญชาไปยังโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ โดยจะนำร่อง 8 จังหวัด 11 โรงพยาบาล ในวันที่ 9 ตุลาคม นี้ เพื่อลดแออัดคนไข้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นจำนวนมาก และเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้เข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไม่ต้องเดินทางมาที่ รพ.อภัยภูเบศร อีก
ขณะที่ นพ.มกร ลิ้มอุดมพร อายุรแพทย์ ด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในฐานะผู้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยน้ำมันกัญชา ระบุว่า การจะให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงน้ำมันกัญชาอย่างทั่วถึงนั้น ก่อนอื่นหมอเองต้องเปิดใจและเชื่อว่ากัญชาให้การรักษาโรคได้ เวลานี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคมากที่สุด เพราะกล้าและเชื่อจากงานวิจัยและผลการรักษาว่าได้ผลจริง
“นอกจากนี้ยังฝากถึงรัฐบาลว่า ขอให้กำหนดโครงสร้างที่ชัดเจนเรื่องกัญชา ไม่อยากให้เป็นเพียงกระแสและค่อย ๆ เลือนหายไป เนื่องจากขณะนี้บุคลากรที่ทำงานก็เหมือนอาสาสมัครที่ทำงานเพิ่มจากงานประจำ ดังนั้นหากไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจนก็อาจจะไม่ยั่งยืน” นพ.มกร กล่าว
ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่กระทรวงสาธารณสุข และกมธ.สาธารณสุข สานต่อนโยบายมาสู่การปฏิบัติจริง จึงอยากฝากให้ผู้ที่ทำนโยบาย ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านทางรัฐบาล หรือทางกรรมาธิการก็ตาม ให้ดูเรื่อง CBD ซึ่งเป็นสารที่ได้จากการสกัดกัญชง และกัญชา ซึ่งขณะนี้ขาดแคลน แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่อยากนำเข้า หากมีการสนับสนุนให้พัฒนาสายพันธุ์ โดยการแจกจ่ายให้กับเกษตรกรได้ปลูก และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ก็จะสร้างรายได้ให้กับชุมชน
“ประเทศไทยมีความคุ้นเคยกับกัญชามายาวนานหลายร้อยปี อีกทั้งกัญชาที่ลักลอบนำออกจากประเทศไทย ก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์จากหลายประเทศทั่วโลก และใช้กันมาจนทุกวันนี้ นั่นหมายความว่าหากได้รับการสนับสนุนและพัฒนาอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เราจะสามารถไปสู่ความเป็นผู้นำกัญชาโลกได้” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี