ห้าสิบ หกสิบปี ที่ผ่านมานับตั้งแต่ได้ดูโขน ที่ทุ่งพระสุเมรุ หรือ สนามหลวง ตั้งแต่เด็กๆ ผมก็เห็นมาโดยตลอดถึงความใหญ่โตของเวทีโขนว่า จะใหญ่กว่าเวทีมหรสพ อื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในงานท้องสนามหลวงทุกเวทีแล้ว เมื่อ โขนเปิดการแสดง ผมก็ยังจำติดตามาตลอดว่า จะมีนางรำ ตัวละคร ที่ออกมาปรากฏบนเวทีเยอะแยะละลานตาไปหมดซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเป็นความตื่นเต้น อลังการให้แก่คนดูทุกคน ซึ่งการแสดงโขน จะมีจุดเด่นดังกล่าว ตลอดมาไม่ว่าจะเป็น กี่สิบปีก็ตาม ไม่มีการแสดงอื่นใดเทียบเคียงได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปดูโขน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นโขนที่จัดมาแสดงโดย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีนักเรียนมาดูกันเต็มโรงละครอันใหญ่โตของศูนย์วัฒนธรรมเพราะเป็นการแสดงเพื่อให้นักเรียนทั่วประเทศได้มาชม เพื่อปลูกฝังเยาวชนรุ่นนี้ รักและยอมรับถึงศิลปะของไทยที่สืบทอดอยู่กับคนไทยมานานนับร้อยปี
ผมมองดูเด็กนักเรียนที่เข้ามาชมที่มีตั้งแต่ระดับประถมอายุ 6-7 ขวบไปจนถึงระดับอุดมศึกษาที่มีอายุเกินกว่า 15 ปีขึ้นไป พร้อมกับนั่งคิดจินตนาการไปว่า หากเด็กๆ หรือเยาวชนเหล่านี้ ไม่หลับไปเสียก่อน เจตนาในการจะอนุรักษ์โขนไทยเอาไว้ให้ลูกหลาน ก็คงประสบความสำเร็จ
เปิดออกมา ไม่นับแสงสีและเสียงที่ทันสมัย ผมก็พบว่า ทุกอย่างยังคงรักษาความอลังการเอาไว้เหมือนหกสิบปีที่แล้ว ตัวแสดง นางรำ ออกมาเต็มเวทีไปหมด จนไม่รู้ว่าจะดูคนไหนดี
ใช้เวลาอยู่หลายนาทีเหมือนกัน ในการแสดงให้เห็นถึงศิลปะการร่ายรำของนาฏศิลป์ไทย ก็เล่นเอาเคลิ้มๆ ไปเหมือนกัน
แต่พอเปลี่ยนฉากใหม่ ซึ่งเป็นไปตามท้องเรื่อง คราวนี้ ภาวะเคลิ้มเริ่มจะตื่นตัว เมื่อเห็นฉาก ซึ่งไม่คิดว่าจะมีปรากฏอยู่บนเวทีการแสดงมันเหมือนกับวิมาน สถานที่อันตระการตาและส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันไปหมด เหมือนคนดูเข้าไปร่วมอยู่ในพลพยุหเสนาของตัวละครไปด้วย
โขนที่จัดมาแสดงวันนี้ เป็น ตอนสืบมรรคา มีความหมายถึง การที่หนุมานนำพลลิง ห้าร้อยนายไปสืบค้นหาเส้นทางที่จะไปกรุงลงกา เพื่อจะไปช่วงชิงเอานางสีดากลับมาจากทศกัณฐ์ความสำคัญของเรื่องจึงอยู่ที่ ระหว่างการเดินทางเพื่อไปให้ถึงกรุงลงกา หนุมานจะต้องพบกับเหตุการณ์มากมาย อาทิ พบกับนางยักษ์ ผู้เฝ้ามหานที ก่อนเข้ากรุงลงกา พบกับผู้รักษาด่าน พบกับการเดินทางที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล ซึ่งทุกอย่างต้องใช้ความสามารถของหนุมาน ชาญสมร ทั้งนั้น
ครับ..ตอนนี้หนุมาน เป็นตัวเด่นตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งพอผ่านฉากแรกมาแล้ว บอกตรงๆ ว่า ผมต้องอุทานออกมาอย่างลืมตัวว่า “โอ้โหเดี๋ยวนี้โขนไทยเป็นได้ถึงอย่างนี้แล้วหรือ”
ไม่ต้องพูดถึงลีลา การร้องการรำนะครับ เพราะเรื่องนี้แน่นอนว่าต้องสุดยอดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องโอ้โห คือ เอฟเฟกท์ในการแสดง กล่าวคือ เมื่อ หนุมานต้องทำถนนเพื่อหาทางข้ามมหานทีไปยังเมืองลงกา แทนที่จะขนอิฐขนหินมาถมถนน หนุมาน ใช้วิธีแปลงร่างของตัวเองให้ใหญ่กว่ามหานที แล้วเอาตัวเองนอนพาดไปจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งเพื่อให้พลลิงทั้งห้าร้อยนายเดินข้าม
อะไรจะยิ่งใหญ่ขนาดนั้น บนเวทีแทนที่จะเป็นการสมมุติ ด้วยการใช้เสียงบรรยายเหมือนของเดิมๆ เขากลับแปลงร่างหนุมานให้ใหญ่โตเต็มเวที ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่า เวทีของศูนย์วัฒนธรรมนั้นใหญ่จริงๆ
รูปหนุมาน ที่ตัวโตขนาดตึกสามสี่ชั้น มานอนขวางกลางแม่น้ำโดยมีพลลิงเดินข้ามไป โดยตัวหนุมานนอนส่ายหัวอมยิ้มปล่อยให้ลูกน้องข้ามไปจนเสร็จสรรพ แน่นอนทุกสายตาในโรงละคร พุ่งตรงไปยังภาพของหนุมานตัวมหึมาบนเวทีอย่างไม่กะพริบตาเสียงปรบมือแสดงความชื่นชมดังก้องทั่วโรงละคร
นับว่าเป็นการสร้างความตื่นเต้น และตื่นตัวของคนดูทั้งโรง ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่ฉากนี้ฉากเดียวยังมีอีกหลายฉากที่ตื่นตาตื่นใจ ตลอดเส้นทางที่หนุมานเดินไปจนถึงกรุงลงกา อาทิ ในฉากเจอกับนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร ตัวนางยักษ์สมกับเป็นยักษ์คือใหญ่โต มีขนาดสูงเท่ากับโรงละครเคลื่อนไหวได้ ทั้งมือ ทั้งปาก ทั้งนม โดยเข้าต่อสู้กับหนุมานเป็นพัลวันสุดท้ายหนุมานฆ่านางยักษ์ด้วยการลงไปในท้องของนางยักษ์แล้ว กรีดท้องนางยักษ์ออกมาทางหน้าท้องเห็นกันจะจะ
เสร็จฉากนี้ เขาหยุดการแสดงชั่วคราว ให้คนดูออกมาผ่อนคลายเข้าห้องน้ำ ซื้อของกิน ผมเลยถือโอกาสไปถามเด็กตัวเล็กๆ ระดับประถมว่า สนุกไหม ทั้งสี่คนบอกตรงกันว่า สนุกมาก แล้วก็หันไปคุยต่อกับเพื่อนๆรุ่นเดียวกันว่า “หนุมานทะลึ่งว่ะ” ก็จะไม่ให้เด็กว่าได้อย่างไร ในเมื่อ หนุมานสู้ไปก็บีบนมนางยักษ์ไป คนฮากันตรึม (ก็นางยักษ์แกไม่ใส่ยกทรงปล่อยให้นมโทงเทงเกะกะลูกตาของหนุมาน)
ทุกฉากตลอดการเดินทางของหนุมานต้องพบกับอะไรมากมาย ต้องต่อสู้ ต้องปลดปล่อย ซึ่งทุกอิริยาบถล้วนมีเอฟเฟกต์ทั้งนั้น แบบว่า การต่อสู้กันบนท้องฟ้า หนุมานขี่นกหัสดินขึ้นไปสู้กันบนท้องฟ้า การปลดปล่อยนางฟ้าให้สู่สวรรค์ หนุมานจับโยนผึงเดียว ตัวนางฟ้าลอยจากเวทีขึ้นสู่สวรรค์อย่างจะจะตา
ยังมีอีกหลายอย่างครับที่ทำให้ผมต้องอุทาน “โอ้โห” ลองไปดูกันเถอะ แล้วคงจะบอกกับใครๆได้ว่า หากคนไทยพัฒนาโขนไทยได้ร่วมสมัยถึงขนาดนี้ เชื่อได้เลยครับ โขนไทยไม่มีวันสูญหายแน่ๆ เพราะมีทั้งสนุกตื่นเต้นและสวยงามตระการตาวันหน้ามีเวลาจะขอมาบอกให้อีกครั้งว่ายังมีอะไรซ่อนเร้นอยู่ในโขนชุดนี้บ้าง
โดย ชนิตร ภู่กาญจน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี