นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เปิดตลาดและนำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรการปกป้องพิเศษ (Special Safeguard: SSG) ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย - นิวซีแลนด์ (Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership Agreement:TNZCEP) ว่า ปัจจุบันไทยมีสินค้าที่ใช้มาตรการ SSG เหลืออยู่ 18 รายการ และจะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป สินค้าทั้ง 18 ชนิดลดภาษีเป็นร้อยละ 0
หากพิจารณาสินค้า SSG ที่ไทยนำเข้าจากนิวซีแลนด์ในปริมาณค่อนข้างสูง พบว่า มีเพียง 3 รายการ จาก 18 รายการ ได้แก่ นมและครีม เนื้อโคกระบือ และเครื่องในโคกระบือ ซึ่งจากข้อมูลปี 2559 - 2561 พบว่าไทยมีปริมาณนำเข้า สินค้านมและครีม จากนิวซีแลนด์เฉลี่ย 44,440 ตัน/ปี โดยปี 2563ไทยกำหนดปริมาณนำเข้า (Trigger Volume)สำหรับภาษีร้อยละ 0 จำนวน 51,973 ตัน แต่หากปริมาณที่เกินเพดานที่กำหนด ต้องเสียภาษีร้อยละ 5 หรือร้อยละ 18
สำหรับ สินค้าเนื้อโคกระบือ ไทยมีปริมาณนำเข้าจากนิวซีแลนด์เฉลี่ย 2,531 ตัน/ปี โดยปี 2563 ไทยกำหนดปริมาณนำเข้า สำหรับภาษีร้อยละ0 จำนวน 1,039.46 ตัน และหากปริมาณที่เกินเพดานที่กำหนด ต้องเสียภาษีร้อยละ 50 ส่วน สินค้าเครื่องในโคกระบือ ไทยมีปริมาณนำเข้าจากนิวซีแลนด์เฉลี่ย 2,738 ตัน/ปี ทั้งนี้ ปี 2563 ไทยกำหนดปริมาณนำเข้า สำหรับภาษีร้อยละ 0 จำนวน 1,247 ตัน หากปริมาณเกินเพดานที่กำหนด ต้องเสียภาษีร้อยละ 30 ส่วนสินค้าอื่น เช่น เนื้อสุกร เครื่องในสุกร เนยแข็ง และผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ พบว่า ไทยไม่ใช่ตลาดส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ จึงมีปริมาณนำเข้าจากนิวซีแลนด์ไม่มากนัก
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 สินค้าดังกล่าวทั้ง 3 รายการ จะสิ้นสุดมาตรการคือ ลดภาษีเป็นร้อยละ 0 โดยไม่จำกัดปริมาณนำเข้า ดังนั้น สศก. จึงร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯเตรียมรองรับผลกระทบที่อาจเกิดจากการเปิดตลาดสินค้าเกษตร ภายใต้กรอบความตกลง TNZCEP โดยเฉพาะสินค้าเนื้อโคและผลิตภัณฑ์และผลิตภัณฑ์นม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯมีกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในกรณีรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ด้วยการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่า และปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน โดยที่ผ่านมาให้ความช่วยเหลือดำเนินการด้านปศุสัตว์ไปแล้ว 18 โครงการ นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลง TNZCEP ไทยและนิวซีแลนด์มีโครงการความร่วมมือสำหรับพัฒนาศักยภาพการผลิตโคนมของไทยอีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าผู้ผลิตในประเทศจะพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการผลิตได้ อีกทั้ง ยังสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าดังกล่าว นำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรม โคเนื้อและโคนมของไทยได้ในอนาคต สำหรับเกษตรกรที่ต้องการขอคำแนะนำจากกองทุน FTA สอบถามได้ที่ โทร. 0-2561-4727 หรือ Email: fta.oae@gmail.com หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www2.oae.go.th/FTA
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี