นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 (COP 25) ระหว่างวันที่ 2-9 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมาที่กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน เพื่อร่วมผลักดันแนวทางรูปธรรมให้บรรลุข้อตกลงในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับความตกลงปารีส โดยมีรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมผู้แทนกระทรวงต่างๆ รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกรมวิชาการเกษตร และ สศก. ร่วมประชุม
สำหรับการเจรจาในส่วนภาคเกษตรกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทยและประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ยังคงให้ความสำคัญกับการเรียกร้องให้เกิดความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนภาคเกษตร ภายใต้“การทำงานร่วม Koronivia” (Koronivia Joint Work on Agriculture: KJWA) ซึ่งกำหนด Roadmap ระหว่าง 2018-2020 และการสนับสนุนจากองค์กรที่จัดขึ้นภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on ClimateChange: UNFCCC) เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นสนับสนุนด้านการเงิน พัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และเสริมสร้างศักยภาพด้านการปรับตัวของภาคเกษตร ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาน้อยที่สุดต้องการให้เกิดเป็นข้อตัดสินใจ (COP decision) และปัจจุบันการผลักดันข้อเรียกร้องนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในการประชุม COP 25 ได้หารือจัดการทรัพยากรดิน ซึ่งมีความสำคัญในการเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศมาสะสมในดิน ที่ไม่เพียงจะช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ในดิน เพิ่มผลผลิตการเกษตรนำไปสู่ความมั่นคงอาหาร และหารือประเด็นเครื่องมือการคำนวณการปรับตัว และผลประโยชน์ร่วมจากการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เหมาะกับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ
เลขาธิการสศก.กล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัพยากรดินมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหา และเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งตนในฐานะประธานสมัชชาดินโลกแห่งภูมิภาคเอเชีย เห็นว่าการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์การระหว่างประเทศ เช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย (CESRA) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จะช่วยสร้างการพัฒนาทรัพยากรดินให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการจัดการดินอย่างยั่งยืน รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพ การศึกษา วิจัย ผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปริมาณคาร์บอนในดินของกิจกรรม วิธีการตรวจวัด การรายงานผล และตรวจสอบความถูกต้อง ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับดินทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก
ทั้งนี้ การดำเนินการตาม Roadmap ของ KJWA ยังเหลือเวลาอีก 1 ปี ดังนั้น ต้องเจรจาในประเด็นที่ต้องการผลักดันในอนาคตของ KJWA ว่าจะมีทิศทางต่อไปอย่างไร ซึ่งการประชุม COP จัดขึ้นทุกปี และมีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 20,000 คนจากทั่วโลก เปิดกว้างให้ NGOs นักเคลื่อนไหวร่วมประชุมในกรณีที่เปิดเป็นสาธารณะ โดยการประชุม COP 26 จะจัดขึ้นอีกครั้งปลายปี 2563 ที่กรุงกลาสโกว์ สกอตแลนด์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี