“วราวิช” ยันบุคลากรของหน่วยงานใดก็ให้อำนาจเลื่อน ลด ปลด ย้าย แต่ต้องทำในภาพรวมระดับจังหวัด แต่กรณีย้ายข้างจังหวัดต้องเสนอส่วนกลาง

วันที่ 24 มกราคม 2563 นายวราวิช  กำภู  ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ  ประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุม ได้พิจารณาถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากปัญหาความซ้ำซ้อนของการแต่งตั้งบุคลากร ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ. ) ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน และ ข้าราชกาครู  ซึ่งเป็นบุคลากรที่ขึ้นตรงกับ สพฐ. แต่ขณะนี้การแต่งตั้งโยกย้ายโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จึงทำให้เกิดปัญหา ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้วจึงมีมติในหลักการว่า บุคลากรของหน่วยงานใด ก็ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดนั้นเป็นผู้มีอำนาจ เลื่อน ลด ปลด ย้าย ได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งก็คือ ให้ สพฐ.เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายได้ แต่การโยกย้ายนั้น จะให้พิจารณาในภาพรวมระดับจังหวัด อาทิ จังหวัดที่มีเขตพื้นที่การศึกษา 8 เขต ก็ให้พิจารณาโยกย้ายครู ผู้บริหารกันข้ามเขตพื้นที่ได้ภายในจังหวัด แต่กรณีที่ย้ายข้ามจังหวัดให้เสนอเรื่องมาที่ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา

นายวราวิช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(สป.) และ สพฐ. ตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาเนื้องานต่างๆ โดยให้พิจารณาว่า งานใดที่ชัดเจนและเป็นงานของ กศจ.  และ งานใดที่เป็นงาน ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)  ส่วนงานที่มีความทับซ้อนกัน ระหว่าง กศจ.กับ สพท. หรือกลุ่มงานสีเทา ที่ไม่สามารถแบ่งกันได้อย่างชัดเจน ก็ให้คณะทำงานฯ นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างของ ศธ. ให้เป็นผู้พิจารณาตัดสิน  ทั้งนี้  ในที่ประชุมได้ให้คณะทำงานฯเสนอเรื่องนี้กลับมาทั้งส่วนงานที่แบ่งกันได้อย่างชัดเจนแล้ว กับงานที่ทับซ้อนกัน ในการประชุมครั้งหน้า ในวันที่ 31 ม.ค.นี้  ซึ่งตนเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย

“กรณีที่ สพฐ.เสนอรูปแบบการปรับโครงสร้าง สพฐ. ให้มี อ.ก.ค.จังหวัดนั้น ที่ประชุมไม่เห็นด้วย เพราะ ไม่ทำให้ปัญหาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรของ สพฐ.จบลง  ควรเป็นการพิจารณาในภาพรวมระดับจังหวัด และอยู่ภายในองค์กรของ สพฐ. น่าจะดีกว่า  ทั้งนี้ หากทุกอย่างลงตัวเป็นมติที่ประชุมแล้ว  และมีความจำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบรวมไปถึงการเสนอแก้ไขคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ก็จะดำเนินการต่อไป เพราะ ครม.มีมติไว้ให้หน่วยงานเสนอเรื่องขอยกเลิกคำสั่ง คสช.ได้  ดังนั้น ที่ประชุมฯก็จะเสนอเรื่องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนจะใช้เวลาแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพิจารณาตามครรลองของกฎหมาย” นายวราวิช กล่าว