เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอที ว่า มีคนร้ายแอบเข้าไปก่อเหตุลักขโมยตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญของทางบริษัท ที่รื้อถอนออกกากจุดต่างๆ มาเก็บรวบรวมไว้บริเวณบ้านหนองไผ่น้อย ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมตีจำหน่ายออกหายไปมากกว่า 100 ตู้ ล่าสุดพบรถเข็น 2 คัน บรรทุกชิ้นส่วนตู้โทรศัพท์ที่ชำแหละแล้ว จอดทิ้งไว้ข้างทางถนนเลี่ยงเมือง สายบุรีรัมย์-สตึก บริเวณบ้านหนองม่วง ต.ชุมเห็ด และพบผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ขับรถจักรยานยนต์วนเวียนรอบรถเข็นดังกล่าวหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ของทางบริษัท ทีโอที จึงจอดรถซุ้มรอดู และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ

แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ก็ไหวตัวหลบหนีไปก่อน มีเพียงรถเข็น 2 คัน ที่บรรทุกชิ้นส่วนตู้โทรศัพท์ที่ชำแหละแล้วจอดทิ้งไว้ คาดว่าน้ำหนักคันละประมาณ 200 กิโลกรัม ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เคลื่อนย้ายรถเข็นทั้ง 2 คันไปเก็บไว้ที่โรงพัก เพื่อทำบันทึกข้อมูลเป็นหลักฐาน และให้ตัวแทนบริษัทไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตากฎหมาย

นายสุดใจ อนุพัฒนกุล  ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการตอนนอก บริษัท ทีโอที เผยว่า หลังจากทางบริษัทมีนโยบายให้รื้อถอนตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ไปเก็บรวบรวมไว้ในพื้นที่ของบริษัทบริเวณบ้านหนองไผ่น้อย เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีรั้วล้อมรอบ มากกว่า 400 ตู้ แต่ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายเข้าไปลักขโมยหลายครั้งหายไปแล้วกว่า 100 ตู้ คิดเป็นมูลค่านับล้านบาท คาดว่าน่าจะนำไปชำแหละชิ้นส่วนขายเป็นเศษเหล็กที่ผ่านมา เคยแจ้งตำรวจไว้แล้วแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้าย กระทั่งล่าสุดพบผู้ต้องสงสัยที่ขโมยตู้โทรศัพท์ไปชำแหละชิ้นส่วนบรรทุกใส่รถเข็นมาจอดทิ้งไว้ข้างทาง น่าจะกำลังลำเลียงไปขาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแต่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน