‘อนุทิน’แจงยิบจ่อยกระดับ‘โควิด-19’เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ชี้ปชช.ยังใช้ชีวิตได้ปกติ
21 กุมภาพันธ์ 2563 จากกรณีที่มีข่าวว่าภายในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 จะมีการหารือเพื่อยกระดับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงนั้น
ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การออกประกาศว่าโรคใดเป็นโรคติดต่อร้ายแรง จะกระทำเมื่อ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อมีมติของที่ประชุมแล้วจึงนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในประกาศ
คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อส่วนใหญ่คือแพทย์ผู้มีความชำนาญและประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดี และหากจะต้องมีการประกาศให้โรค COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว ประชาชนทั่วไปก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติเหมือนทุกวัน
การประกาศ เป็นฐานให้บังคับใช้ข้อกำหนดในกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติโรคติดต่อได้โดยสะดวก เมื่อมีความจำเป็นเช่น การประกาศว่าเมืองใด ในประเทศใด เป็นเขตติดโรค เพื่อใช้มาตรการคัดกรอง หรือกักกันผู้เดินทางจากเมืองนั้นๆด้วยความเร่งด่วน ก็จะสามารถกระทำได้ทันที และการประกาศเรื่องนี้ยังผลให้เกิดความมั่นใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่ามีกฎหมายรองรับ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ย่อมได้รับคุ้มครองการปฏิบัติงานหากกระทำไปด้วยเจตนารมณ์ที่สุจริตเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคเหล่านี้
ที่ผ่านมาในอดีต มีการประกาศโรคติดต่ออันตรายแล้ว 13 ครั้งและในที่สุดเราก็จัดการกับมันได้ทุกครั้ง โรคเหล่านี้ก็ไม่เคยกลับมากล้ำกรายพวกเราอีกเลย ต่อให้มันกลับมา เราก็มีความสามารถที่จะจัดการกับมันได้
สรุป การประกาศนี้ทำให้เจ้าหน้าที่การสาธารณสุขสามารถปฏิบัติงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น #ส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรต้องหวั่นหรือวิตกครับ
#ตื่นตัวแต่อย่าตื่นกลัว
ขอให้เชื่อถือเฉพาะข่าวสารและข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีการแถลงต่อพี่น้องประชาชนทุกวันเป็นสำคัญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี