วันที่ 19 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปะเคียบ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เกิดเหตุสลดใจลูกชายพยายามจะขโมยข้าวเปลือกในยุ้งไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อเหล้าดื่ม ผู้เป็นแม่เข้าห้ามและต่อว่าไม่ให้เอาไปขายเพราะกลัวไม่มีข้าวกิน แต่ลูกชายกลับไม่พอใจจะเข้าทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง ซึ่งขณะเกิดเหตุแม่ถือตะกร้าหมากอยู่ในมือจึงคว้ามีดปลายแหลมที่ใช้สำหรับหั่นหมากแทงสุ่มออกไปเพื่อป้องกันตัว พลาดไปโดนบริเวณใต้ราวนมข้างซ้ายลูกชายได้รับบาดเจ็บ แต่ลูกชายไม่ยอมไปหาหมอ แค่ไปทำแผลที่ รพ.สต. แล้วกลับไปนั่งดื่มเหล้าต่อ สุดท้ายพบนอนเสียชีวิตหน้าบ้าน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 มีนาคม) พบว่าทางครอบครัวได้นำศพของ นายสมศักดิ์ (นามสกุลสมมุติ) อายุ 46 ปี ลูกชายที่แทงเสียชีวิตไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดแล้ว ส่วนบรรยากาศที่บ้านก็มีชาวบ้านมาช่วยงานจำนวนมากต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นใจ และสงสารผู้เป็นแม่เป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางตึ่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งนั่งอยู่ที่บ้านในอาการโศกเศร้าเสียใจหลังจากได้มอบตัวพร้อมรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ
จากการสอบถาม นางตึ่ง เล่าว่า ตอนประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะนั่งเคี้ยวหมากอยู่หน้าบ้าน ก็เห็นนายสมศักดิ์ ลูกชาย ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาเดินถือกระสอบปุ๋ยตรงไปที่ยุ้งข้าว แล้วขึ้นไปตักเอาข้าวเปลือกใส่ในกระสอบ 1 กระสอบ แล้วโยนลงจากยุ้ง กำลังจะตักเอาข้าวเปลือกใส่กระสอบที่สอง นางตึ่ง ผู้เป็นแม่จึงเดินไปที่ยุ้งโดยหิ้วตะกร้าหมากไปด้วย ซึ่งในตะกร้าหมากมีมีดปลายแหลมด้ามทำด้วยไม้ยาวประมาณ 23 เซนติเมตร 1 ด้าม และมีดปลายแหลมพร้อมด้ามพลาสติกสีแดงยาวประมาณ 18 เซนติเมตรอีก 1 ด้าม ที่สำหรับเอาไว้หั่นหมากเคี้ยวไปยืนอยู่หน้ายุ้งแล้วตะโกนว่านายสมศักดิ์ ลูกชายว่า “มาตักเอาข้าวทำไม ไม่มีปัญญาหาทางอื่นแล้วเหรอ ข้าวหมดแล้วจะกินอะไร” ทำให้ลูกชายไม่พอใจกระโดดลงจากยุ้งตรงเข้ามาหาตนเอง เข้ามากระชากแขนแล้วเหวี่ยงอย่างแรง ด้วยความโมโห ตนจึงหยิบมีดในตะกร้าหมากแทงสวนออกไปข้างหน้า 1 ครั้ง โดยไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้โดนลูกแค่ป้องกันตนเองเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเคยถูกลูกชายทำร้ายหลายครั้งจึงกลัว แต่ปรากฏว่ามีดพลาดไปโดนที่บริเวณใต้ราวนมซ้ายของลูกชาย จนได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุก็บอกให้ลูกไปหาหมอ แต่ลูกชายไม่ฟังกลับไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนต่อ กระทั่งเพื่อนที่กินเหล้าด้วยกันบอกให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และหมอได้ทำแผลให้ แต่เนื่องจากแผลค่อนข้างลึกทางโรงพยาบาลจึงเตรียมรถฉุกเฉิน เพื่อจะส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมือง แต่ด้วยความเมา นายสมศักดิ์ ก็ไม่ยอมไปยังกลับดื่มเหล้าต่อกับเพื่อนอีก พอดื่มเหล้าเสร็จประมาณ 18.00 น. ก็กลับไปนอนที่ชั้นล่าง แม่ไปเรียกเพื่อจะบอกให้ลูกไปหาหมอพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรศัพท์บอกลูกสาวคนโต ซึ่งอยู่บ้านอีกหลังให้มาดู แล้วแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนได้รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ นางรุ่ง เพื่อนบ้าน เล่าว่า เห็นนายสมศักดิ์ ดื่มเหล้าเมาเป็นประจำและชอบมาขอเงินแม่ ทั้งที่ผู้เป็นแม่ก็อายุมากมีรายได้เพียงเบี้ยผู้สูงอายุ ส่วนข้าวเปลือกลูกสาวคนโตก็เอามาให้ไว้กินครั้งละ 2-3 กระสอบ แต่นายสมศักดิ์ ลูกชายก็แอบขโมยไปขายหลายครั้ง แม่ก็ห้ามตลอดจนมีปากเสียงกันบ่อย จนครั้งล่าสุดลูกชายก็เมามาและจะเอาข้าวเปลือกไปขายอีก ยายจึงต่อว่าแต่ลูกชายก็ไม่พอใจตนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็คิดว่ายาย คงไม่ตั้งใจคงจะแค่ป้องกันตัวเท่านั้น และคิดว่าหากนายสมศักดิ์ ยอมไปหาหมอเพื่อรักษาบาดแผลก็คงจะไม่เสียชีวิตก็รู้สึกเห็นใจและสงสารยาย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานางตึ่ง ผู้เป็นแม่ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและเข้ามอบตัวเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี