“กทม.” เตรียมพร้อมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน รับมือแพร่ระบาด เตรียม “รพ.บางขุนเทียน” รับ-ส่งต่อผู้ป่วย “โควิด-19” เพิ่มขึ้น ด้าน “สาธิต” เตรียม “สถานพยาบาลพิเศษ” รองรับผู้ป่วย 80% โรงพยาบาล กทม. และโรงเรียนแพทย์ขานรับแผนเบื้องต้น 1,600 เตียง
20 มีนาคม 2563 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในส่วนของกทม. เพื่อรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า สำนักการแพทย์ ได้จัดทำคู่มือสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ในการดูแลรักษาผู้ป่วย จัดเตรียมเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงให้โรงพยาบาลในสังกัดฝึกซ้อมแผนการรับมือกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 ซักซ้อมความเข้าใจและเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ สถานที่ รวมทั้งซักซ้อมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกทม. โดยมีศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกทม.(ศูนย์เอราวัณ) เป็นศูนย์กลางประสานการรับ-ส่งผู้ป่วยของโรงพยาบาลในสังกัดกทม.
นอกจากนี้ ยังบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ สถาบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของ 4 เหล่าทัพ และสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อสำรองเตียง ทั้งห้องความดันลบและห้องแยกโรค เวชภัณฑ์ และชุดป้องกันการติดเชื้อ เพื่อร่วมมือกันทั่วทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ โดยนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.พร้อมผู้บริหาร ได้ลงไปตรวจความพร้อมที่โรงพยาบาลบางขุนเทียนเมื่อช่วงเช้า
ปลัด กทม.กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลบางขุนเทียน เป็นสถานที่ควบคุมโรคเพิ่มเติม ขณะนี้กทม.ได้ตรียมอุปกรณ์ บุคลากรทางการแพทย์ และทบทวนมาตรการตามแผนปฏิบัติงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว โดยจัดเตรียมอาคารกลางน้ำสำหรับผู้เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย (PUI) ที่รอผลการตรวจยืนยัน จำนวน 8 หลัง หลังละ 4 เตียง รวม 32 เตียง เป็นห้องแยกเดี่ยว หากผลตรวจเป็นลบจะให้กลับบ้าน และทำการกักตัวต่อที่บ้าน แต่หากผลตรวจเป็นบวกจะย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ณ อาคารผู้ป่วยในต่อไป
ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมพื้นที่อาคารผู้ป่วย รองรับในส่วนของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและยืนยันผลตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง เป็นอาคาร 6 ชั้น สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 294 เตียง แบ่งเป็นห้องเดี่ยว 106 เตียง และห้องรวม 188 เตียง โดยเบื้องต้นจะเปิดใช้อาคารผู้ป่วยใน ชั้น 2-3 จำนวน 103 เตียงเป็นลำดับแรก โดยขั้นตอนการย้ายผู้ป่วยได้มีการซักซ้อมการปฏิบัติและแบ่งแยกทางเดินของผู้ป่วย แยกจากส่วนของการให้บริการผู้ป่วยนอก(OPD) ชัดเจน ทั้งนี้ โรงพยาบาลบางขุนเทียนจะรับเฉพาะผู้ป่วยที่ผ่านการส่งต่อจากโรงพยาบาลเครือข่าย ที่ประสานส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่เป็นสถานที่ควบคุมโรคตามหลักเกณฑ์เท่านั้น
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยขณะนี้ ว่า มีพร้อมทั้งในส่วนของ รพ.เอกชน รพ.แพทย์ และ รพ.ในสังกัด กทม. เบื้องต้นมีประมาณ 1,600 เตียง ซึ่งจะได้มีการจัดทำสถานที่ที่เรียกว่า “สถานพยาบาลพิเศษ” ซึ่งจะเป็นการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจติดเชื้อเป็นบวก คาดว่าจะมีประมาณ 80% ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยคนกลุ่มนี้จะมีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ จะมีมาตรการดำเนินการคัดแยก หรือ ดึงผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกมาจากโรงพยาบาลหลักที่รับภาระอยู่ในปัจจุบันเพื่อลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์
อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีเตียงที่มีความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้อยู่แล้วที่ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน ซึ่งตนจะได้ไปตรวจสถานที่ในวันจันทร์นี้ หากเป็นไปได้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในสัปดาห์หน้าเพื่อย้ายผู้ป่วยกลุ่มนี้ไปอยู่ใน ซึ่งในส่วนของ รพ.สังกัดกทม. อาทิ โรงพยาบาลกลางเจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ รพ.คลองสามวา รพ.บางนากรุงเทพมหานคร และ รพ.ลาดกระบัง กทม.รวมถึง รพ.วชิรพยาบาล ส่วน รพ.สังกัดโรงเรียนแพทย์ จะมีเตียงรองรับประมาณ 300 เตียง ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อ จ.นครปฐม คือ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก จะปรับมาใช้เพื่อเป็นสถานพยาบาลพิเศษเพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี