เกษตรฯเชิญชวนส่วนราชการและประชาชนช่วยอุดหนุนมะม่วงคุณภาพดีเป็นของขวัญของฝาก หวังช่วยลดผลกระทบและช่วยเหลือเกษตรกรฝ่าวิกฤติ COVID-19
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรรายงานสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่ได้รับผลกระทบได้แก่ มะม่วง ที่ผลิตเพื่อส่งออก โดยผู้รับซื้อมะม่วงเกรดคุณภาพเพื่อส่งออกหยุดรับซื้อ เนื่องจากไม่สามารถส่งออกได้โดยเฉพาะตลาดเกาหลี ญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งปกติจะส่งมะม่วงโดยขนส่งทางอากาศ แต่มีการระงับการขนส่งทางอากาศบางเที่ยวบิน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 80 บาท ต่อกิโลกรัม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯมอบให้กรมส่งเสริมการเกษตรประสานผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระจายสินค้า 2-3 แห่ง ช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์ปัจจุบัน โดยบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ยินดีลดค่าขนส่งข้ามจังหวัด และเสนอโครงการ “ซื้อมะม่วงฝากหมอ” เป็นการทำ CSR ของกระทรวงเกษตรฯ อีกทั้ง ยังเป็นช่องทางกระจายสินค้า และเปิดโอกาสให้ประชาชนซื้อมะม่วงคุณภาพส่งออกส่งให้โรงพยาบาล เป็นขวัญกำลังใจให้แพทย์และพยาบาล นอกจากนี้ ยังให้เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรคัดเลือกสินค้าและแนะนำเกษตรกรให้เปิดขายสินค้าออนไลน์ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ผ่านช่องทางต่างๆและจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมสินค้ามะม่วง ภายใต้แนวคิดให้ส่วนราชการและประชาชนช่วยกันซื้อมะม่วงคุณภาพดีไปเป็นของขวัญของฝาก
นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ นายมนตรี ศรีนิล นายกสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย แจ้งว่า สถานการณ์มะม่วง ปี 2563 เกิดปัญหาการส่งออกเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการปิดด่านมาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว เวียดนาม ที่เป็นแหล่งรับซื้อผลผลิตมะม่วงหลัก โดยเฉพาะเกรดรองไม่สามารถดำเนินการซื้อขายได้โดยปกติ ประกอบกับมะม่วงที่จะส่งออกไปทางเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่เป็นเกรดคุณภาพดีก็มีค่าระวางเครื่องบินสูงมาก ทำให้ผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนที่สูงการซื้อขายมะม่วงเกิดการหดตัวเป็นอย่างมาก ฤดูกาลผลิตมะม่วงฤดูระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน คาดจะมีมะม่วงได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ไม่สามารถส่งออกได้ โดยมีพื้นที่ผลิตมะม่วงที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญของประเทศไทยที่จะประสบปัญหา 12 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย น่าน ลำพูน และเชียงใหม่ ผลผลิตรวม 360,000 ตัน โดยมีผลผลิตในฤดูที่จะเก็บเกี่ยวระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 180,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 และคาดว่าจะมีผลผลิตที่ออกมามากช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม 80,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 44.44 จึงต้องหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมะม่วง
สำหรับข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรที่ดำเนินการตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 มีมะม่วงแปลงใหญ่ใน 10 จังหวัด ที่คาดว่าผลผลิตจะล้นตลาดไม่สามารถส่งออกได้ในช่วงเวลา 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2563) แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี และภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนส่วนราชการและประชาชนช่วยอุดหนุนมะม่วงคุณภาพดีตามมาตรฐาน GAP และร่วมฝ่าวิกฤติ COVID-19 ช่วยเหลือเกษตรกรได้ โดยประสานงานสั่งซื้อผลผลิตมะม่วงในแหล่งผลิตดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี