ศธ.วาง 3 ระยะเตรียมเปิดภาคเรียน‘ออนแอร์-ออนไลน์’ 1 ก.ค.
21 เมษายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า ครม.หารือถึงการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการและผลกระทบต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดจากการเลื่อนเปิดเทอม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาพิจารณาถึงความเหมาะสมและความทั่วถึงของการแก้ปัญหาต่างๆ
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งให้ ครม.รับทราบถึงแนวทางต่างๆที่ ศธ. วางเอาไว้รับเปิดเทอมในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ โดยการเรียนการสอนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 สำหรับเด็กปฐมวัย , ป.1-ม.3 และกลุ่มมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) ซึ่งการเรียนการสอนจะใช้ระบบออนแอร์ผ่านช่องทีวีเป็นหลัก ตามด้วยการสอนผ่านระบบออนไลน์ และสอนผ่านครูผู้สอน ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้ช่องทีวีดิจิทัล เพื่อใช้จัดการเรียนการสอนมีจำนวน 17 ช่อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติในการจัดการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1-3 , ป.1-ป.6 , ม.1-ม.6 อาชีวะ และ กศน. และกำลังรอดูแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
“ศธ.พร้อมเปิดให้ภาคเอกชนที่คิดว่ามีคอนเทนต์ หรือสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ที่เหมาะสมสามารถเข้ามาสนับสนุนช่วยสอนออนไลน์ได้ เพียงแต่จะไม่เป็นสื่อหลัก และต้องผ่านแพลตฟอร์มของกระทรวงศึกษาก่อน เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆที่จะเผยแพร่” นายณัฏฐพล กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ ศธ. กำลังตรวจสอบและรวบรวมว่าพื้นที่ใดจะเผชิญกับปัญหาบ้างในช่วงจัดการเรียนการสอน และคาดว่า 10-15% จะมีปัญหาการใช้งานของผู้ใช้บริการทั้งหมด ดังนั้นช่วง 45 วันระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่จะถึงนี้ จะหาทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถใช้งานได้ ส่วนที่มีทีวีและไม่มีทีวี รวมถึงที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและปัญหาต่างๆ ศธ.ได้วางช่วงเวลาไว้ 3 ช่วง โดยช่วงนี้ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 จะเป็นช่วงตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ และวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 จะมีการทดสอบระบบของการเรียนการสอนจริงไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น และช่วงเวลาวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรกไปจนถึงช่วงปิดเทอม
สำหรับการเรียนการสอนแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ และสาระการเรียนต่างๆมาจากส่วนกลาง 80% ส่วนอีก 20% นอกจากเด็กจะได้รับสาระการเรียนผ่านทีวีแล้ว เด็กจะได้รับสาระการเรียนผ่านคุณครู เช่น โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่ไม่มีโรคระบาด ก็จะมีคุณครูเข้าไปรับส่งแบบฝึกหัด ส่วนหนึ่งก็เพื่อไปพูดคุยกับผู้ปกครอง ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ที่ไม่มีอุปกรณ์การเรียนและไม่สามารถสอนออนแอร์และออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด อาจจะมีคุณครูเข้าไปสอนในโรงเรียนได้บ้าง แต่ให้คำนึงถึงการรักษาระยะห่างและความปลอดภัยของเด็กตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
นายณัฏฐพล กล่าวด้วยว่า มีหลายประเทศยังไม่เปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียน และหลายประเทศมีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ดังนั้นเห็นได้ว่าทุกประเทศให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคโควิด-19 จึงยังไม่เป็นเรียนที่โรงเรียน ซึ่งก็ตรงกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้นโยบายไว้ว่าให้ ศธ. ตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อประกอบการตัดสินใจต่างๆ ในวันนี้ตนจึงได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า ศธ. ก็ยังขอไม่เปิดโรงเรียน ถึงแม้รัฐบาลจะปลดล็อกดาวน์ ยังไม่เปิดโรงเรียน ยังคงใช่การเรียนการสอนผ่านออนแอร์และออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี