เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ในประเทศไทย ว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวเฝ้าระวังโรคที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) จ.ชลบุรี เป็นนักศึกษาไทย เดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน 1 คน และเป็นนักศึกษาไทยเดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ 2 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 1 ราย รวมกลับบ้านสะสม 2,856 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.31 ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 116 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 3.83 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 3,028 ราย
จากภาพรวมสถานการณ์ที่ จ.ภูเก็ต หลังจากปิดเมืองมาระยะหนึ่งนั้น สถานการณ์ดีขึ้น แต่ปรากฏช่วงเวลารอยต่อวันที่ 1 - 2 พฤษภาคม พบว่าคนจากจังหวัดอื่นๆ ที่เดินทางเข้าไปทำงานใน จ.ภูเก็ต มีอาการเป็นฝูงผึ้งแตกรัง เดินทางกลับบ้านไปยังทุกภาค รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามี 2 รายแล้ว โดยรายที่เดินทางกลับบ้านที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่มีอาการแต่ตรวจพบเชื้อ และอีกรายเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าจะต้องเฝ้าจับตา เพราะเป็นช่วงระยะวันที่
14 - 28 ระหว่างนี้อาจมีผู้ระยะเชื้อฟักตัว เป็นผู้ติเชื้อไม่แสดงอาการ ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อแล้วในวันที่ 8 - 14 จะมีอาการหนัก ซึ่งถ้าควบคุมโรคได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหลุดเข้าไปในชุมชนจะกลายเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (Super Spreader) ดังนั้น ก็ต้องเฝ้าระวังต่อไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่คนต่างถิ่นเดินทางเข้ามาทำงานใน จ.ภูเก็ต แล้วเดินทางกลับยังภูมิลำเนา ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจึงได้มีหนังสือสั่งการไปยังจังหวัดปลายทางผู้เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต ยกการ์ดให้สูง โดยให้มีการติดตามของ อสม.อย่างใกล้ชิดทุกวัน ซึ่งมีตัวอย่างกรณี จ.ปราจีนบุรี ที่สามารถพบการติดเชื้อทั้งที่บุคคลดังกล่าวยังไม่มีอาการ แม้ในทางสาธารณสุขจะไม่มีอะไรได้ผล 100% แต่ก็ยังอุ่นใจว่าอยู่ในวิสัยที่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขยังได้สั่งการให้ทุกเขตสุขภาพจังหวัด จัดทำแผนค้นหากลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงเฉพาะของแต่ละจังหวัด เพื่อรวบรวมแผนดังกล่าวยื่นต่อกระทรวงสาธารณสุข ให้พิจารณาการใช้งบประมาณตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในแต่ละจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดมีบริบทรายละเอียดที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี ในแผนการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ต้องมีการค้นหาอย่างจริงจัง ใน 4 กลุ่มด้วย คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 2.ผู้ต้องขังในเรือนจำรวมทั้งผู้คุม 3.คนขับรถแท็กซี่ คนขับรถสาธารณะ 4.แรงงานต่างด้าว และผู้อยู่ในสถานที่แออัด ชุมชนแออัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี