ศาลสั่งจำคุก"อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ"4ปี16เดือนปรับแสนเศษ ร่วมกับพวกฟอกเงินโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา-อบรมคุณธรรม ส่วนลูกน้องอีก4คนรับโทษลดหลั่นกันไป แต่ให้รอลงอาญาไว้2ปี ยกฟ้อง2จำเลย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อท.197/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , นายบุญทวี คำมา อายุ 42 ปี อดีตพระศรีคุณาภรณ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , นายสมจิตร จันทร์ศรี อายุ 50 ปี อดีตพระครูสิริวิหารการ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , นายเทอด วงศ์ชอุ่ม อาบุ 49 ปี อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , น.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 34 ปี แม่บ้านร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท , นายธีรพงศ์ พันธุ์ศรี อายุ 33 ปี , นายทวิช สังข์อยู่ อายุ 44 ปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ และ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา อายุ 52 ปี (มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์) เป็นจำเลยที่ 1 - 8 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5) , มาตรา 5 (1)(2)(3) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91
กรณีจำเลยร่วมกันฟอกเงิน การทุจริตเงินทอนวัดในส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนาฯ 2559 จำนวน 32,500,000 บาท และเงินอุดหนุนโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชนและข้าราชการเพื่อความมั่นคง ของสถาบันชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ฯ 2559 จำนวน 37,200,000 บาท
จำเลยปฏิเสธศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1 - 4 และ 7 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 (2) , 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงาน กระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของความผิดนั้น ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 10 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1 - 4 อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
พิพากษา จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 4 ปี ปรับกระทงละ 84,000 บาท 2 กระทง รวม 8 ปี , จำคุกจำเลยที่ 2 - 4 คนละ 2 กระทงฯ ละ 2 ปี รวมคนละ 4 ปี ปรับกระทงละ 42,000 บาท , จำคุกจำเลยที่ 7 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 42,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 - 4 และ 7 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามี ลดโทษให้คนละกระทงหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 2 ปี 8 เดือน ปรับกระทงละ 56,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 ปี 16 เดือน ปรับ 112,000 บาท , จำคุกจำเลยที่ 2 - 4 คนละกระทงละ 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละกระทงละ 28,000 บาท เป็นจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ปรับ คนละ 56,000 บาท , จำคุกจำเลยที่ 7 เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน ปรับ 28,000 บาท
เมื่อพิจารณาถึงสถานะประวัติของจำเลยที่ 1 - 4 และ 7 ในทุกทางแล้ว เห็นว่าจำเลยที่ 1 - 4 เป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพระสงฆ์ดำรงสมณศักดิ์ ดำรงตนในเพศบรรพชิตตลอดชีวิตสืบเนื่องมานับแต่บรรพชาเป็นสามเณร และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย สืบทอดและบำรุงพระพุทธศาสนาตลอดมา สร้างคุณประโยชน์แก่วงการพระพุทธศาสนาและประเทศชาติต่อเนื่องตลอดมา ส่วนจำเลยที่ 7 แม้เป็นฆราวาสก็เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีใจฝักใฝ่ในทางธรรม ช่วยกิจการงานของคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ มาโดยตลอด เป็นการสนับสนุน ส่งเสริมกิจการงานของคณะสงฆ์ อีกทั้งยังมีภาระเป็นหัวหน้าครอบครัว มีบุตรที่อยู่ในวัยศึกษาอีก 3 คน
พฤติเหตุแห่งการกระทำความผิดในคดี แม้เป็นความผิดเพราะกฎหมายบัญญัติ แต่ผลสุดท้ายในการนำเงินงบประมาณทั้งสองโครงการที่เป็นความผิดไปใช้ก็เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคมโดยรวม การลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 - 4 และ 7 อาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคม จำเลยไม่เคยมีประวัติเรื่องการทุจริตและไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยที่ 1 - 4 และ 7 ได้ดำรงตนเป็นบุคลากรที่มีประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติต่อไป จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 5 - 6 และ 8
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี