ทลายแก๊งยาหมื่นล.
ฟอกเงินจากกระทำความผิด
จับลูกสมุนรายย่อย109คน
อำพรางเปิด49บัญชีธนาคาร
ตบตาซื้อทอง-น้ำมัน-ผลไม้
‘เฮียช้าง’นายใหญ่จอมบงการ
ตร.ภาค 5 ร่วมกับ ป.ป.ส.-ปปง.ทลายเครือข่ายยานรก“เฮียช้าง” พบฟอกเงินจากยาเสพติด มีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้าน สุดแยบยล แบ่งกลุ่มบัญชีธนาคาร ใช้ซื้อสินค้าเกษตร-ทองคำ-น้ำมัน-ผลไม้-อาหารทะเล ก่อนขาย โอนเงินเข้าบัญชีปลายทาง เร่งสอบขยายผลต่อเนื่อง เตือนคนรับจ้างเปิดบัญชีมีโทษอาญาด้วย
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) พล.ต.ท.ประจวบวงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดและฟอกเงินข้ามชาติของนายเชียง ม่า หรือเฮียช้าง สัญชาติจีน อายุ 45 ปี รวม 61 ราย และอายัดตัวผู้ต้องขังในเรือนจำ 13 ราย แต่ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีไปได้อีก 35 ราย รวม 109 ราย โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนใน 49 บัญชีธนาคาร รวมกว่า 10,120 ล้านบาท และเฉพาะเงินที่ตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด รวมมากกว่า 1,000ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด ตั้งแต่ปี 2560 โดยฟอกเงินด้วยการนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปซื้อสินค้า อาทิ ทองคำ น้ำมัน อาหารและสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ แล้วนำไปขายต่อ เมื่อได้เงินมาก็จะโอนออกไปยังต่างประเทศ
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า การติดตามจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม 2562 กำลังเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้า 9.4ล้านเม็ด พร้อมบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงราย ต่อมาได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการรับโอนเงินจากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดและโอนเงินไปให้กับชาวเมียนมา โดยอาศัยการทำธุรกรรมการเงินในการรับโอนจากกลุ่มบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและโอนเงินไปที่กลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ต่อมาชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ได้ติดตามไปยังสถานประกอบการต่างๆดังกล่าว จนทราบว่ามีนักธุรกิจชาวจีนชื่อนายช้าง เป็นผู้โอนชำระเงินค่าสินค้า มีการใช้บัญชีธนาคารรวม 49บัญชีในการโอนชำระเงิน
จากนั้นจึงมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้ง 49 บัญชี พบว่ามีเงินหมุนเวียนถึกว่า 10,120 ล้านบาท มีผู้เปิดบัญชีทั้งคนไทย ชาวจีน และชาวเมียนมา ส่วนหนึ่งใช้ในการโอนเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค และอีกส่วนหนึ่งโอนเงินไปยังบริษัทผู้ค้าทองคำ , บริษัทผู้ค้าน้ำมัน , บริษัทผู้ส่งออกผลไม้ อาหารทะเล หรือผู้ประกอบการส่งออกปศุสัตว์ เช่น วัว และกระบือ และเมื่อนำข้อมูลเส้นทางการเงินทั้ง 49 บัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบกับฐานข้อมูลการจับกุมคดียาเสพติดที่ผ่านมา พบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่เคยถูกจับกุม โดยมีการโอนเงินให้กัน 8บัญชี เช่น เครือข่ายมันทุกเม็ด , เครือข่ายไอซ์ 500 กิโลกรัม ของอดีตนางแบบสาวแนวปลุกใจเสือป่า เป็นต้น
ผบช.ภ.5 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายเชียง ม่า หรือเฮียช้าง ให้การว่าได้โอนเงินชำระค่าสินค้าจริง โดยให้ลูกค้าที่ประเทศจีนโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีธนาคารในประเทศจีน ก่อนจะใช้บัญชีธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย เป็นลักษณะโพยก๊วน โอนเงินชำระค่าสินค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ
อย่างไรก็ดี จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดที่เป็นเครือข่ายนี้สามารถแยกบัญชีที่ใช้โอนเงินในเครือข่ายเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.บัญชีของผู้ค้ายาเสพติดโดยตรง 2.บัญชีของคนใกล้ชิดที่เปิดให้ผู้ค้ายาเสพติด 3.บัญชีของบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชีโดยได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงกัน แบ่งการรับจ้างเปิดเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ มีคนรู้จักชักชวนให้รับจ้างเปิดบัญชี และรับจ้างเปิดบัญชีจากการประกาศโฆษณาผ่านเว็บหรือสื่อโซเชียลต่างๆ และ 4.เปิดบัญชีให้บุคคลอื่นที่รู้จักนำไปใช้
ทั้งนี้ จากพยานหลักฐานที่พบ สามารถสรุปรูปแบบการฟอกเงินของขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทย คือ 1.มีการว่าจ้างให้บุคคลรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กระบวนการนำไปใช้ซึ่งผู้รับจ้างเปิดบัญชี มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ บัญชีธนาคารส่วนหนึ่งนำไปใช้ที่โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดน
2.ขบวนการค้ายาเสพติดเมื่อลักลอบนำเข้าและกระจายจำหน่ายยาเสพติดแล้ว ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยจะชำระเงินค่ายาเสพติดโดยโอนผ่านบัญชีธนาคารที่โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดน นำไปใช้ และ 3.เจ้าของยาเสพติดไม่ต้องการรับชำระเงินค่ายาเสพติด จะให้บุคคลในเครือข่ายสั่งการให้โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดนโอนเงินซึ่งมีที่มาจากการค้ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศไทย จีน เมียนมา และกัมพูชา เช่น บริษัทค้าทองคำ บริษัทค้าน้ำมัน บริษัทส่งออกผลไม้ เป็นต้น เพื่อเป็นค่าซื้อสินค้า เมื่อเปลี่ยนเป็นสินค้าแล้ว จะนำสินค้า เช่น ทองคำ น้ำมัน ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไปจำหน่ายต่อ ซึ่งเงินที่ได้จากการขายสินค้าก็จะโอนเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มขบวนการฟอกเงิน เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดที่มีการนำเงินจากการกระทำผิดไปฟอกเงินอย่างต่อเนื่องต่อไป และขอฝากเตือนไปยังประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชี หากบัญชีนั้นถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางทุจริตจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดคดีอาญา หรือขบวนการฟอกเงิน หรือฉ้อโกง ได้ จึงไม่ควรเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จัก นำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินโดยเด็ดขาด และผู้ที่เคยเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นแล้ว ขอให้รีบปิดบัญชีโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือซึ่งจะทำให้ไม่เดือดร้อนภายหลังด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี