นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “M-Help Me”ว่า ตามนโยบายดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เน้นการตลาดนำการเกษตรเพื่อปฏิรูปภาคเกษตรให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงเกษตรฯจึงร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ทำยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ช่วยหาตลาดจำหน่ายผลผลิตทั้งในและต่างประเทศ รองรับผลผลิตและสินค้าเกษตรฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะนี้ทั่วโลกต้องการอาหารและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพผลิตภาคเกษตรสูง รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตร 4 หมวด คือ พืช ปศุสัตว์ ประมงและการแปรรูป กระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ได้ขยายการรับซื้อของตลาดเดิมและหาตลาดส่งออกใหม่ไปทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกร ผลิตสินค้าเกษตรที่ตรงความต้องการของตลาด เกษตรกรขายผลผลิตได้แน่นอน ส่งผลให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น พร้อมส่งเสริมสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน กลุ่ม SME กลุ่มเกษตรกรรายย่อยและ Young Smart Farmers ให้มีทางเลือกจำหน่ายผลผลิตและสินค้าแปรรูปผ่านระบบออนไลน์ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับช่องทางออกสู่ตลาดของสินค้าเกษตร จึงบูรณาการร่วมระหว่างภาครัฐเอกชน รวม 30 หน่วยงานจัดระบบขนส่งของประเทศ โดยจัดพิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือแนวทางบริหารจัดการการขนส่งผลไม้ไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด 19” เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่กระทรวงพาณิชย์ ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อให้ความสำคัญด้านบริหารจัดการขนส่งผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อใช้ระบบขนส่งในประเทศไทยช่วยกระจายผลผลิตผลไม้ที่ออกสู่ตลาดมากปี 2563 ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง และองุ่น รวมถึงไม้ผลอื่นที่เป็นพืชเศรษฐกิจจากแหล่งผลิตโดยตรง นั่นคือ เกษตรกรหรือโรงงานผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศหรือตลาดปลายทางให้ได้โดยเร็ว โดยอาศัยกลไกทำงานของระบบโลจิสติกส์ การขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ และในส่วนขนส่งสินค้าในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการซื้อขายผ่านออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในการช่วยอำนวยความสะดวกแบบเบ็ดเสร็จ
“M-Help Me เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ของคนไทยส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภคภายใต้นโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และนโยบายตลาดนำการผลิต รวมทั้งพันธกิจร่วมเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด ซึ่งเชื่อมั่นว่า M-Help Me จะเป็นกลไกสำคัญของประเทศช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ รวมทั้ง SMEs และโรงงานอุตสาหกรรมในภาคเกษตร เชื่อมโยงไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้เช่นกัน และสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศในยุค COVID-19 ระบาด เพื่อบรรลุเป้าหมายสู่ประเทศผู้ส่งออกอาหาร 1 ใน 10 ของโลกได้ตามที่รัฐบาลกำหนด และเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายอลงกรณ์ กล่าว
ด้านนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ผู้ก่อตั้งสมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสานร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้และสร้างความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่ดูแลสินค้าเกษตร เพื่อวางแผนผลิตไปจนถึงมือผู้บริโภคและสนับสนุนธุรกิจเกษตรด้วย องค์ความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยพัฒนาระบบแพลตฟอร์มช่องทาง การตลาดออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น M-Help Me หรือ M-Man เป็นระบบ ซื้อ-ขาย-ขนส่ง-ประกัน-ชำระเงิน-ออนไลน์ ครบจบบนแอพฯเดียว ช่วยอำนวยความสะดวกเบ็ดเสร็จ ภายใต้โครงการคืนคุณแผ่นดิน ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผลักดันการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อลดผลกระทบความเสียหายของผลผลิต และช่วยแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ เพราะกระจุกตัวภายในประเทศมากเกินความต้องการ
อย่างไรก็ตาม แม้วิกฤติการระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปทั่วโลก แต่ความต้องการอาหารและสินค้าเกษตรยังมีอัตราสูง จึงจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะช่วยกระจายผลผลิตการเกษตรและอาหารสู่ตลาดถึงมือผู้บริโภค ด้วยช่องทางการตลาด ออนไลน์ ผ่าน แอพพลิเคชั่น M-Help Me ซื้อ-ขาย-ขนส่ง-ประกัน-ชำระเงิน-ออนไลน์ ครบจบบนแอพฯ เดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี