‘กระเทียม-ลำไย’สะเทือน
ผลิตผลล้นตลาด
จากผลกระทบไวรัส
ส่งออกตปท.ไม่ได้
วอนภาครัฐช่วยซื้อ
ต่อลมหายใจชาวสวน
กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมชาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน วอนรัฐบาล ให้ลงมาช่วยเหลือกรณีกระเทียมตกค้างขายไม่ได้กว่า 2 ล้านกก.ในขณะที่ลำไยเชียงใหม่ ผลผลิตล้นตลาด ส่งออกไปจีนไม่ได้
เมื่อวันที่18 กรกฎาคม 2563นายสิงหล สุขก๋า ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอนเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา ได้นำตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ชาวอำเภอปาย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอปาย เพื่อขอความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ฯ ที่ประสบกับปัญหาความเดือดร้อนไม่สามารถจำหน่ายกระเทียมออกสู่ท้องตลาด จนทำให้มีกระเทียมตกค้างรอจำหน่ายถึง 2,670,000 กิโลกรัม หรือ 2,670 ตัน โดยทางกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม เสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือรับซื้อกระเทียมในราคา กก.ละ 35-40 บาท ซึ่งปัจจุบันกระเทียมได้แห้งเต็มที่ไม่มีความชื้นและเนื้อของกระเทียมแน่นมีคุณภาพดีสูงสุด
ผู้แทนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมระบุว่า ปัญหาการไม่ได้จำหน่ายกระเทียมสาเหตุหลักมาจากช่วงโรคโควิด-19 ระบาดใหม่ ๆ ทางรัฐบาลได้มีการล๊อคดาวน์พื้นที่และประกาศเคอร์ฟิว ทำให้พ่อค้าผู้รับซื้อกระเทียมจากต่างจังหวัด ไม่สามารถเดินทางมารับซื้อกระเทียมในพื้นที่อำเภอปายได้ ส่งผลทำให้มีกระเทียมตกค้างจำนวนมาก และเกษตรกรต้องเดือดร้อนไม่มีเงินใช้สอย ต้องเป็นหนี้ ธกส. และหนี้ค่าปุ๋ย ค่ายา กับร้านค้าต่าง ๆ ในพื้นที่ หากทางรัฐบาลไม่รีบช่วยเหลือ กลุ่มเกษตรกรคงต้องลำบากและส่งผลกระทบต่อะบบเศรษฐกิจโดยรวม
ด้าน นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปพื้นที่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการความร่วมมือเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน โดยการแลกเปลี่ยนผลผลิตสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน พบว่าช่วงนี้เป็นฤดูผลผลผลิตลำไยเริ่มออกสู่ตลาดจำนวนมาก ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 63 ประมาณ 3 แสนตัน ราคาส่งออกจากสวนประมาณ 20 บาทต่อกิโลกรัม ปกติชาวสวนจะส่งออกไปยังจีนได้ปริมาณสูงมาก แต่เมื่อเจอปัญหาโควิด-19 ชาวสวนได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่สามารถส่งออกไปยังจีนได้
สทบ.จึงดำเนินโครงการ เชิญชวนให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านช่วยกันซื้อลำไย ตามโครงการแลกเปลี่ยนสินค้า จะช่วยระบายผลผลิตลำไยจากสวนได้มากขึ้น เพราะเมื่อสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ 12.9 ล้านครัวเรือน หากร่วมกันช่วยแก้ปัญหาลำไยล้นตลาดจะช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเดินหน้านโยบายแลกเปลี่ยนสินค้าหลากหลายชนิด เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน นำของดีมาแลกเปลี่ยนกัน โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และซื้อขายกันถูกกว่าท้องตลาด เพื่อให้เป็นกลไกแก้ปัญหาสินค้าในชุมชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี