วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมาย สศก. ขยายผลโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดิน ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำต้นแบบ จ.ศรีสะเกษ ขยายผลทั่วประเทศ สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานเกษตรทฤษฎีใหม่ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ร่วมสร้างอาชีพเกษตร ช่วยผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ก้าวสู่ Smart Farmer ยุคดิจิทัล ตามนโยบายกระทรวงเกษตรฯ
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนมหามงคลของปวงชนชาวไทย ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 กระทรวงเกษตรฯ โดยสศก. นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์” ขับเคลื่อนโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดิน ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจการเกษตรอาสาประจำศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยอบรมและสาธิตการทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารจัดการสินค้าเกษตรผลผลิตทางการเกษตร ผ่านเศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) พร้อมบูรณาการขับเคลื่อนผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ศูนย์ปฏิบัติการอื่นๆ กลุ่มองค์กรภาคประชาชน ในการช่วยเหลือแรงงานคืนถิ่นให้สามารถทำการเกษตรเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
โดยขณะนี้เปิดโครงการดังกล่าว ณ ศพก. อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่ง สศก.นำต้นแบบของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นโมเดลขยายผลโครงการ ไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 จัดอบรมไปแล้วมากกว่า 300 ราย และจะอบรมไปจนถึงเดือนกันยายน 2563เป้าหมายกว่า 1,000 ราย และจากที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการระยะที่ 1 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบโควิด-19 กรอบวงเงิน 92,400 ล้านบาท สศก. เตรียมบูรณาการและเชื่อมโยงขยายผลร่วมกับโครงการต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาคีในระดับพื้นที่ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง กรมปศุสัตว์ ภายใต้โครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งกลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่” เป้าหมายพัฒนาพื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ 4,009 ตำบล 64,144 ราย รวมพื้นที่192,432 ไร่ และโครงการ “พัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service)” ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินการในศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน 394 ศูนย์/อำเภอใน 63 จังหวัด ตลอดจนมีแผนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวง อาทิ โครงการสร้างงานของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตลอดจนแรงงานจังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด การศึกษานอกระบบ (กศน.) หรือหน่วยงานอื่นที่มีโครงการลักษณะเดียวกันมาใช้ ศพก. และ ศกอ.เป็นกลไกขับเคลื่อน
“เพื่อให้การดำเนินโครงการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเต็มที่ สศก.จัดทำคู่มือการฝึกอบรมให้เป็นมาตรฐาน เพื่อติดตามประเมินผล จากการถอดบทเรียนของศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่าน ศกอ. ที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย 9 ฐานเรียนรู้ที่เข้มข้น และยังมุ่งเน้นองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจการเกษตร ด้วยเทคโนโลยีเพื่อให้ก้าวทันยุคดิจิทัล ผ่านแอพพลิเคชั่น ฟาร์ม D และแอพพลิเคชั่นกระดานเศรษฐี (RCMO) รวมทั้งการใช้ประโยชน์จาก BIG Data ของศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (NABC)โดยผู้เข้าอบรมต้องทำความเข้าใจพร้อมถอดรหัสบทเรียนที่ได้ ไปออกแบบแปลงให้สอดคล้องกับสภาพของพื้นที่ตนเองและประยุกต์ใช้ได้จริง” เลขาธิการ สศก. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี