“ลุงพล”ควง”ป้าเเต๋น”ฟ้อง หมิ่น“อัจฉริยะ” ประจานหนี้ ธกส. ไฟแนนซ์ ขณะที่เจ้าตัวไม่หวั่นพร้อมสู้คดี เตือนสติ ลุงพลกับป้าแต๋น ตกเป็นเครื่องมือใครบางคน รีบทำมาหากิน เก็บเงินไว้สู้คดีน้องชมพู่ดีกว่า ชัวร์ปัดขอโทษลุงพล ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ปลาย ม.ค.ปีหน้า บ่าย
วันที่ 14 กันยายน 2563 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น สองสามีภรรยา พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความเดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ หรือ ธัญเทพ หรือราเณศหรือโรจนทวี เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โดยนายไชย์พล ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า โจทก์เป็นลุงของดญ.อรวรรณ วงศ์ปรีชา หรือน้องชมพู่ ที่หายตัวไปเมื่อวันที่11 พ.ค.63 ต่อมาพบว่า เสียชีวิตที่เทือกเขาภูพานน้อย อุทยานภูผายล ต.กกตูม อ.คงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นคดีที่สนใจของประชาชน ส่วนจำเลย เปิดใช้เฟซบุ๊กชื่อ"ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม"มีสมาชิกหรือผู้ติดตามกว่า1ล้านคน ต่อมาวันที่10ก.ย.63 เวลากลางคืนจำเลยไลฟ์สดลงในเฟซบุ๊กสรุปว่า" วันที่น้องชมพู่หายตัวไป ลุงพลเป็นหนี้ไฟแนนซ์ เป็นหนี้ธกส. มีเจ้าหนี้มาติดตามตัว ข้อมูลเรามีหมด เผอิญดีเอ็นเอ.ไม่มี ถ้ามีลุงพลถูกจับไปแล้ว"และข้อความอื่นๆ
ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงแล้วโจทก์ไม่ได้เป็นหนี้ไฟแนนซ์ ไม่มีหนี้ธกส. แต่จำเลยพยายามชักจูงให้เข้าใจว่าโจทก์เป็นคนร้ายฆ่าดญ.อรวรรณ และมีหนี้สินรุงรัง เป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ทั้งที่โจทก์ไม่เคยมีหมายเรียกของตำรวจ ส่วนจำเลยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนได้เสียในคดี ไม่มีสิทธิไปแถลงข่าว หากจำเลยมีพยานหลักฐานใดๆ ก็สามารถไปมอบฝห้พนักงานสอบสวนได้ ไม่ควรนำมาถ่ายทอดทางเฟซบุ๊ก
การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ เสื่อมเสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยและให้โฆษณาคำพิพากษา ในเฟซบุ๊กจำเลยและให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่จำเลยถูกลงโทษอีก 16 สำนวนด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา เป็นคดีดำ อ.2361/2563 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 25 ม.ค.2564 เวลา 13.30น.
นายไชย์พล หรือ ลุงพล เปิดเผยว่า การกระทำของนายอัจฉริยะทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด โดยการฟ้องครั้งนี้ไม่มีการเรียกเงินค่าเสียหายแต่อย่างใด แต่อยากให้ เป็นบทเรียน ไม่ให้นำเรื่องราวของผู้อื่นมาทำให้เกิดความเสื่อมเสีย แต่หากนายอัจฉริยะขอโทษผ่านสื่อมวลชน ตนก็จะไม่ติดใจเอาความ ก็จะถอนฟ้องให้
ด้านนายษิทรา ทนายความกล่าวว่า เตรียมพยานไว้ 2 ปาก คือตัวลุงพล เเละผู้ที่ได้รับชมคลิปมาเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และชอให้ศาลนับโทษต่อคดีอื่นๆกว่า 10 คดีด้วย
ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีดังกล่าวว่ารู้สึกเฉยๆ กับการที่ทั้งสองคนจะๆได้ยื่นฟ้องตน แต่มองว่าทั้งลุงพลและป้าแต๋นตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่หรือไม่ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ลุงพล กัลป้าแต๋นจะได้พบกับทนายษิทรา ต้องมีคนหนุนหลังให้ และตนพร้อมจะต่อสู้ในชั้นศาลอย่างเต็มที่ เพราะยืนยันว่าการที่ได้ไลฟ์สดในเพจเฟสบุ๊กของตัวเอง เรื่องหนี้สินของลุงพลกับป้าแต๋น ก็มีหลักฐานซึ่งทั้ง 2 คนก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ก่อนที่จะดัง
และตลอดการไลฟ์สดก็ไม่ได้บอกว่า ลุงพลเป็นผู้ต้องหา แต่เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ และอยากเตือนลุงพลกับป้าแต๋นว่า ควรทำมาหากินเองได้แล้ว เพราะถ้าไม่มีชื่อเสียงก็อยู่ได้ไม่นาน ตอนนี้ถ้ามีโอกาสเก็บเงินเก็บทองก็รีบเก็บเอาสู้คดีกันในชั้นศาลดีกว่า เพราะคดีความเมื่อขึ้นศาลแล้วไม่ใช่สู้กันวันสองวัน และถ้าให้ตนเองไปขอโทษลุงพลแล้วลุงพลจะให้อภัย ตนเองคอนเฟิร์ม 100% ว่าจะไม่ขอโทษแน่นอน เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี