เตือนอีสาน-ตอ.
รับพายุไต้ฝุ่น‘โซเดล’ถล่ม
ปภ.สรุป13จว.ยังจมบาดาล
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฉบับที่ 5 พายุ “โซเดล” ยกระดับ “ไต้ฝุ่น” กำลังเคลื่อนใกล้เข้าเวียดนาม ส่งผลให้ภาคตะวันออก-อีสาน มีฝนตกหนัก-ลมแรง ปภ.สรุป 34 จังหวัดเกิดอุทกภัย ดินสไลด์-วาตภัยยังมีน้ำท่วมขัง 13 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ จ.ปราจีนบุรี น้ำท่วมขยายทะลักตลาดกบินทร์
เมื่อเวลา 05.00น.วันที่ 23ตุลาคม 2563 กรมอุตุนิยมวิทยา ออก ประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศพายุไต้ฝุ่นโซเดล(พายุระดับ 5) ฉบับที่5 ลงวันที่ 23ตุลาคม ระบุว่า เวลา 04.00น.วันที่ 23ตุลาคม2563 พายุไต้ฝุ่น โซเดล (พายุระดับ5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่25-26ตุลาคม2563 จากนั้น จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนบางแห่ง กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ1182 ได้ตลอด 24ชั่วโมง
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่23ตุลาคม พยากรณ์อากาศ 24ชั่วโมงข้างหน้าว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง จะมีอุณหภูมิลดลง 1-2องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทย มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2563-ปัจจุบัน (23ต.ค.2563 เวลา 06.00น.) มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์และวาตภัย รวม 34จังหวัด ได้แก่ จ.อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูลและจ.สงขลา รวม 131อำเภอ 488 ตำบล 2,126 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 63,931ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต3ราย (จันทบุรี ตรังและสุราษฎร์ธานี) บาดเจ็บ 3ราย (สิงห์บุรี)
แยกเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 32 จังหวัด รวม 118 อำเภอ 471 ตำบล 2,102หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 63,882ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3ราย ใน จ.จันทบุรี ตรัง และสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 19 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมขัง 13จังหวัด ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี,นครราชสีมาและจ.สุรินทร์ ภาคตะวันออก 4จังหวัด ได้แก่ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรีและจ,ฉะเชิงเทรา ภาคใต้ 2จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานีและจ.นครศรีธรรมราช ภาคกลาง 4จังหวัด ได้แก่ จ.อุทัยธานี นครปฐม ชัยนาทและจ.สุพรรณบุรี พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 5จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี สิงห์บุรีและจ.พังงา รวม 9 อำเภอ 12 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 62หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างฟื้นฟู พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร ภูเก็ต สตูลและจ.กระบี่ รวม 5 อำเภอ 6ตำบล 6หมู่บ้าน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังจุดอพยพ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของอำเภอพบว่า ปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่รุนแรง โดยปริมาณน้ำวันนี้สูงขึ้นอีก 10ซม.รถเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้ แต่ผิวการจราจรมีน้ำท่วมสูง เมื่อรถวิ่งสัญจรไปมา ทำให้น้ำกระเด็นเข้าร้านค้า ชาวบ้านต้องทำป้ายประกาศให้รถชะลอความเร็ว สาเหตุที่มวลน้ำในพื้นที่ตลาดเทศบาลกบินทร์ถูกน้ำท่วมสูงขึ้น เนื่องจากในพื้นที่ บ้านแก่งและบ้านปากน้ำ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี ที่รับน้ำมากจาก จ.สระแก้วและน้ำท่วมสูงประมาณ1เมตรเศษนั้น น้ำได้ลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลเข้าพื้นที่ตลาดเทศบาลกบินทร์บุรี กระจายวงกว้างสร้างผลกระทบไปทั่ว
หากในพื้นที่ตลาดเทศบาลกบินทร์เริ่มทรงตัว มวลน้ำทัพหน้าก็จะไฟเข้าพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจะทำให้บ้านเรือนราษฎรทั้งสองฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ตั้งแต่ ต.บ้านทาม ต.ศรีมหาโพธิสูงน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันในพื้นที่ทั้งสองตำบลก็ถูกน้ำท่วมสูง ไม่สามารถเดินทางเข้าออกจากบ้านพักได้ ต้องให้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี