เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 27 ตุลาคม 2563 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) พร้อมด้วยนายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ. 3 (บ้านโป่ง)นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายอนุชิต เอี่ยมละออ. หัวหน้าสายตรวจปราบปรามสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 (สายที่1)พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ร่วมเดินทางไปที่บริเวณตลาดสด หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย ท้องที่หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เพื่อตรวจติดตามการติดป้ายโฆษณาประกาศแจ้งเตือน ให้ร้านค้า ผู้ขาย และนักท่องเที่ยว ผู้ซื้อ ระวังติดคุกและถูกปรับเป็นแสนจากการขาย และซื้อเนื้อสัตว์ป่า ที่อยู่ทั้งภายในตลาดและร้านค้าต่างที่อยู่ตั้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณทั้งสองฟากฝั่งของริมถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค
โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพบปะพูดคุยพร้อมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าให้เข้าใจดังนี้
1.ผู้ขายติดป้ายโฆษณาขายเนื้อ กวางป่า กระต่ายป่า เก้ง หากทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเนื้อสัตว์ป่าคุ้มครองจริงตามที่โฆษณา ผู้ขายจะต้องมีความผิดตามมาตรา 29 ระวางโทษ จำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ซื้อถือว่าให้การสนับสนุนการกระทำผิด จะมีความผิดฐานครอบครองเนื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 17 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
2.หากผู้ขายติดป้ายโฆษณาขาย เนื้อกวาง กระต่าย หากเจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ผู้ขายนำมาหลอกขาย ผู้ขายจะต้องมีความผิดฐานหลอกลวงการขายตาม ปอ.มาตรา 271 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท และมีความผิดในข้อหาหลอกลวงผู้บริโภค มาตรา 47 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท สำหรับผู้ซื้อ ถือได้ว่าเป็นผู้เสียหาย สามารถไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายได้
และ 3.หากผู้ขายติดป้ายโฆษณาขายอาหารประเภท เนื้อหมูป่า สามารถกระทำได้โดยที่ไม่ผิดกฎหมาย เพราะหมูป่านั้นไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงซื้อขายได้ตามปกติ
หลังจากที่คณะของนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) ได้อธิบายและประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายให้ผู้ขายและนักท่องเที่ยวทราบจนเข้าใจแล้ว จึงได้นำป้ายประกาศให้ความรู้ในข้อกฎหมายไปติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณหน้าน้ำตกไทรโยคน้อยแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี
จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางมาพบปะบรรดาพ่อค้าและแม่ค้าภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายให้ทุกคนได้เข้าใจ เพื่อที่จะไม่ให้ใครหลงไปกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าอีกต่อไป เพราะหากถูกจับกุมจะได้รับโทษที่รุนแรงมาก
ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) เปิดเผยต่อไปว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีนโยบายให้กรมอุทยานฯ ดำเนินการทางด้านกฎหมายกับผู้ค้าสัตว์ป่า และให้ประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่า ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปได้รับทราบถึงโทษที่จะได้รับ
นอกจากประชาสัมพันธ์ด้วยวาจาแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้นำแผ่นใบปลิวโฆษณาข้อกฎหมาย มอบให้กับร้านค้าต่างๆที่มีอยู่ รวมทั้งมอบให้นักท่องเที่ยวที่มาด้วย เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้ปฎิบัติตามกฎหมาย ว่าเนื้อสัตว์ป่าใดที่ขายได้ หรือเนื้อสัตว์ป่าใดที่ขายไม่ได้
โดยหลังจากติดป้ายโฆษณาประกาศแจ้งเตือนให้ร้านค้า ผู้ขาย ผู้ซื้อ และนักท่องเที่ยว ทราบข้อกฎหมายสัตว์ป่าโดยทั่วไปแล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไป หากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พบว่ามีการซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามที่ประกาศเอาไว้ข้างต้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี