"อนุทิน"ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ลุยคุมโควิด-19 รับคลายล็อกเพิ่มเติม พร้อมดันมาตรการ "Quarantine" เป็น "กฎหมาย"
29 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2563 ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ และมีความพร้อมจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะได้สำรองยา เวชภัณฑ์ มีประสบการณ์และมีแผนการรองรับ ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อสู้โควิด 19 อัตราการเสียชีวิตต่ำมาก หรือน้อยกว่าร้อยละ 2
จากนี้ ต้องมองไปข้างหน้า ซึ่งจะมีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ให้เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัว และที่ประชุมเสนอให้ออกนโยบายเรื่องการกักโรคในประเทศ หรือ National Quarantine Policy ให้มาตรการกักกันโรค ยกระดับเป็นกฎหมาย จากที่ผ่านมาออกเป็นคำสั่งให้สถานกักกันโรคปฏิบัติตาม ครั้งนี้ จะต้องพัฒนาเป็นกฎหมาย ข้อบังคับ ที่ต้องทำตาม ห้ามยกเว้น ให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน และผู้ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันตัวจะได้รับความสะดวกสบายขึ้น สำหรับเรื่องการตรวจเชื้อ แปลผล ยังยึดวิธีการเดิมที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ จะมีการพัฒนาวิธีการต่างๆ เข้ามาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ความคืบหน้าในแนวคิดเรื่องลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ทีมนักวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลตรงกันว่า การลดเวลากักตัวออกไป 4 วัน ไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่จะลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐได้มหาศาล แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด กรมควบคุมโรค ต้องไปคิดมาว่า เวลา 4 วันที่ ไม่ต้องกักตัว จะมีมาตรการอะไรเข้ามาทดแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบ ร่างนโยบายการกักกันโรคในประเทศ (National Quarantine Policy) รองรับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว ประกอบด้วย 3 หลักการ คือ 1.จัดให้มีระบบการกักกันโรค และสถานที่กักกันผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน เหมาะสมกับบริบทของการปฏิบัติงานและกลุ่มเป้าหมาย และเพียงพอทุกพื้นที่
2.พัฒนากลไกการบริหารจัดการระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันโรคให้เป็นเอกภาพ ทั้งในระดับชาติ และระดับจังหวัด ที่สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร 3.เร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้ง ได้กำหนดระบบการจัดการในสถานที่กักกันโรค 10 ข้อ ทั้งด้านการจัดการสถานที่พัก พื้นที่ส่วนกลางและสถานที่เฉพาะ, มีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนครบตามจำนวนวันที่กำหนด, การคัดกรองการเจ็บป่วย หรือสงสัยติดเชื้อโควิด 19, การจัดการสิ่งแวดล้อม, การบริการพื้นฐานเพื่อการดำรงชีวิต, การรวบรวม จัดเก็บข้อมูล, ระบบรายงานเหตุการณ์, การพัฒนาทักษะผู้ปฏิบัติงาน, การตรวจประเมินสถานที่กักกันโรค และมีวิธีการการตรวจสอบย้อนหลังเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติ รวมทั้งมีการกำกับติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน ทั้งในระดับชาติและพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นด้วยกับหลักการ เรื่องการลดเวลาการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน และให้ข้อเสนอแนะให้เน้นเรื่องความปลอดภัย การติดตามตัวได้ มีอาการป่วยหรือไม่ เข้มข้นการปฏิบัติตัวแบบ New normal โดยจะเสนอ ศบค. พิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี