ร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ  พ่อค้าหวยโดนแก๊งตุ๋นลงทุน ผงะตามยึดทรัพย์คืนเจอทองปลอม

3 พฤศจิกายน 2563 ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข นายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช ทนายความ นำนายสามิตร สิ่วสงวน และนางจิรนันท์ สิ่วสงวน พร้อมผู้เสียหายจากการถูกหลอกลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ นำเอกสารหลักฐานการลงทุนซื้อขายลอตเตอรี่ เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ดีเอสไอติดตามทรัพย์ให้ผู้เสียจำนวนกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท พร้อมขอให้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษด้วย

นายสามิตร กล่าวว่า ตนและพวกได้ถูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เข้ามาตีสนิท และชักชวนให้ร่วมทุนด้วยการนำเงินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่าย และหากขายได้ทั้งหมดก็จะแบ่งเงินให้กับผู้ร่วมลงทุน ตนเห็นว่ามีคนรู้จักได้ร่วมทุนกับผู้ต้องหารายนี้มานานกว่า 2 ปี และมีรายได้จริง จึงตัดสินใจลงทุนกับผู้ต้องหาเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และยังซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ต้องหาไปขายให้กับกลุ่มเครือญาติในราคาต้นทุนฉบับละ 80 บาท หรือราคากล่องละ 35,000-45,000 บาท โดยช่วง 4-5 งวดแรก ได้รับเงินจริง

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีผู้ฝากซื้อลอตเตอรี่ โดยลงทุนไปอีกรวมเป็นเงินจำนวน 25 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่สามารถจัดหาลอตเตอรี่มาให้ได้ ทั้งๆที่รับเงินไปแล้ว และไม่สามารถติดต่อได้อีก ตนและผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ขณะเดียวกันตนถูกผู้เสียหายที่ฝากซื้อลอตเตอรี่แจ้งจับในข้อหาฉ้อโกงด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่นายอานนท์ กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 8 ราย เหลืออีก 2 ราย ที่ยังตามจับตัวไม่ได้ ทั้งๆที่ทั้ง 2 คนยังอยู่ในพื้นที่ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตามยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาได้ เป็นเงินสด พร้อมสร้อยคอทองคำ แต่เมื่อนำไปตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม จึงรู้สึกไม่สบายใจและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้ต้องหามีอิทธิพล อีกทั้งยังได้ทรัพย์สินที่หลอกลวงประชาชนไปจำนวนมาก จึงต้องร้องขอให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยทำคดี และรับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ

ด้าน พ.ต.อ อัครพล กล่าวว่า ดีเอสไอจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา และตั้งเรื่องเป็นเลขสืบสวนคดี โดยจะส่งพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีวงเงินสูง การหลอกลวงประชาชนในร่วมลงทุนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นการซ้ำเติมทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง