เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภจว.กระบี่ นำโดย พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภจว.กระบี่ พ.ต.ท.นพดล กล่อมพงศ์สว.สส.ภจว.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ จับกุม นายถาวร รักการงาน อายุ 50 ปี ชาว ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง , นายพิมาน ตันสมรส หรือ เบส อายุ 22 ปี , นายวสันต์ หนูสุข หรือ เบิร์ด อายุ 30 ปี ทั้งสองบ้านอยู่ ต.ทุ่งต่อ จ.ตรัง ขณะที่ทั้ง 3 คน ได้นำยาบ้า จำนวน 16,000 เม็ด มาส่งที่นิมถนนเพชรเกษม ม.6 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ให้กับสายล่อซื้อ จากนั้นจึงคุมตัวไปสอบสวน

ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าค้ายาบ้าจริง เจ้าหน้าที่ร่วมกับ ป.ป.ส.จึงได้ดำเนินมาตรการยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2535 ประกอบด้วย รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 4 คัน เป็นรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว 2 คัน , ฟอร์จูนเนอร์ , กระบะ และ จยย.1 คัน สุกร จำนวน 320 ตัว วัวชน จำนวน 31 ตัว แหวนทอง กำไลทอง และเครื่องประดับเงินสดจำนวนหนึ่ง โฉนดที่ดิน รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

ต่อมาวันนี้ทาง พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้แถลงผลการจับกุม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ระบุว่า เป็นมาตรการที่จังหวัดให้ความสำคัญและจะดำเนินการติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ค้าทุกราย

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายถาวร มีพฤติกรรมค้ายาบ้า โดยจะส่งยาให้กับกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่ จ.ตรัง จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีการเลี้ยงวัวชนถือเป็นเซียนวัวคนหนึ่งในพื้นที่ จ.ตรัง และเปิดฟาร์มสุกรบังหน้า จึงได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้าก่อนที่จะจับกุมได้ดังกล่าว สำหรับยาบ้าที่นายถาวร นำมาขายนั้นรับมาเม็ดละ 22 บาท และนำมาขายต่อในราคาเม็ดละ 50 บาท ส่วนผู้ค้ารายย่อยก็จะขายต่อในราคาเม็ดละ 80 - 100 บาท